เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 ก.พ. ชาวบ้านตำบลคลองด่านจำนวน 50 คน นำโดยนายเฉลา ทิมทอง เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนมติวันที่ 3 พ.ย.2552 กรณีให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จ้างทีมสำรวจและเดินหน้าโครางการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการต่อไป เนื่องจาก 1.โครงการดังกล่าวไม่เคยทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 2.มติดังกล่าวเอื้อประโยชน์ให้ผู้รับเหมาที่เป็นเครือญาติรัฐมนตรีในรัฐบาลให้ไม่ต้องติดคุกและล้มละลาย 3.มติดังกล่าวทำสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตชุมชน และการประมงชายฝั่ง และ 4.เป็นมติอัปยศ เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เคยประกาศว่า ประชาชนต้องมาก่อน แต่มติครม.ดังกล่าวกลับเห็นแก่พรรคร่วมมากกว่าประชาชน พร้อมขอให้ทวงค่าก่อสร้าง 16,000 ล้านบาทคืนมา โดยมี ร.อ.ทวิช ศุภวรรณ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับเรื่องร้องทุกข์สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับหนังสือแทน
ต่อมาชาวบ้านตำบลคลองด่าน เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ผ่านทางนายวิทยา อาคมพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักการข่าวและประมวลผล สำนักงานป.ป.ช. เพื่อขอให้คณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตก่อสร้างโครงการคลองด่านที่มีนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป.ป.ช.เป็นประธาน เร่งพิจารณาคดีเพื่อส่งฟ้อง เนื่องจากคดีเหลืออายุความเพียง 3 เดือนเท่านั้น โดยคดีดังกล่าวมีผู้ถูกกล่าวหา ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป.ป.ช.เป็นนักการเมือง 3 คน นอกจากนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรมช.มหาดไทย นายยิ่งพันธุ์ มนะสิการ อดีตรมว.วิทยาศาสตร์ฯ ยังรวมถึงนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรมว.วิทยาศาสตร์ฯ ที่เป็นผู้เปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ให้บริษัทเอกชนหาที่ดินก่อสร้างเอง เปิดโอกาสให้นายทุนที่กว้านซื้อที่ดินไว้แล้วนำที่ดินดังกล่าวมาขาย
“นอกจากนี้ ชาวบ้านยังอยากให้คณะกรรมการป.ป.ช.ตรวจสอบการทำหน้าที่ของอัยการสูงสุด ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีแยกสำนวนส่งฟ้องข้าราชการกับนายวัฒนา อัศวเหม ในคดีทุจริตคลองด่านกรณีออกเอกสารสิทธิ์ทับที่สาธารณะ จนทำให้คดีความอายุความ ไม่สามารถเอาผิดข้าราชการกลุ่มดังกล่าวได้ ทั้งที่หากส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการกลุ่มดังกล่าวก็อาจถูกศาลตัดสินลงโทษเช่นเดียวกับนายวัฒนา” นายเฉลา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการยื่นหนังสือ ชาวบ้านตำบลคลองด่านยังใช้รถกระบะติดเครื่องขยายเสียงเป็นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลด้วย ที่หน้าทำเนียบ บริเวณประตู 4 ฝั่งถนนพิษณุโลกด้วย โดยเป็นที่น่าสังเกตว่ารถกระบะคันดังกล่าว ติดป้ายหาเสียงของส.ส.พรรคเพื่อไทยรายหนึ่ง
คัดลอกมาจาก http://breakingnews.Quickze.com
คงมีบางคนออกจะเห็นใจนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ หัวเรือใหญ่พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาไม่น้อย เนื่องจากในวันฉลองครบรอบวันเกิด 55 ปี แทนที่จะได้ฉลองอย่างชื่นมื่นมีความสุข กลับต้องมาถูกปะชาชนชาวคลองด่านยื่นหนังสือถึง ปปช. ให้เร่งดำเนินคดีทุจริตคลองด่าน 1.6 หมื่นล้าน ก่อนที่คดีจะหมดอายุความในอีก 3 เดือนข้างหน้า
และการที่มีรถกระบะติดป้ายหาเสียงของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยร่วมขบวนอยู่ด้วย หลายคนมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากพรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ต้องตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่น เป็นหูเป็นตาแทนพี่น้องประชาชนที่เลือกผู้แทนเข้าไปนั่งในสภา แต่จะแปลกและถือเป็นเรื่องผิดต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างไม่น่าให้อภัย หากเห็นการกระทำที่ทุจริตผิดกฏหมายแล้วนิ่งเฉย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น