วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

" ทักษิณ" ทำตัวเองแท้ๆ



อุตส่าห์สะสมพลังเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่ถูกยึดอำนาจแม้ต้องระเห็จอยู่ต่างประเทศ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังสามารถครองใจประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ยังรักและศรัทธาในตัว และยิ่งได้กลุ่มคนเสื้อแดงที่รวมตัวกันจงรักภักดีต่ออดีตผู้นำประเทศ เรียกร้องความเป็นธรรมให้ในทุกๆ เรื่อง มีการแสดงพลังเพื่อช่วงชิงมวลชน แม้จะเป็นเรื่องของการเมืองบนถนน แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังคงเป็นหนึ่งในใจประชาชนไม่เปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด

การเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถช่วงชิงพื้นที่ข่าวกระทบมาถึงรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีตลอดเวลา ดังนั้นจึงไม่แปลกที่รัฐบาลปัจจุบันจะหมายหัวกาชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือศัตรูถาวรทางการเมือง และพร้อมที่ดำเนินการทุกวิถีทางในฐานะผู้ถืออำนาจรัฐ กับอดีตผู้นำพลัดถิ่นผู้นี้ ถึงแม้จะผิดจากวิสัยคนไทยทั่วไปที่คนล้มแล้วไม่ข้าม แต่สำหรับกรณีนี้ต่างฝ่ายต่างสามารถเหยียบหน้ากันได้เลย

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความร้อนรนกระหายอยากจะกลับเข้าประเทศอย่างผู้บริสุทธิ์ แต่คงไม่บรรลุผลแม้กลุ่มคนเสื้อแดงจะเพียรพยายามเคลื่อนไหวเพียงใด ดังนั้นแผนแยบยลที่คิดว่าจะเป็นการได้ใจประชาชนคือการยกระดับตัวเองขึ้นเป็นบุคคลสำคัญของประเทศเพื่อนบ้าน โดยการนัดแนะให้ ฮุน เซน ผู้นำเขมรตั้งเป็นที่ปรึกษาทั้งส่วนตัวและรัฐบาลจึงเกิดขึ้น แต่ผลที่ได้รับกลับเป็นตรงกันข้าม ทั้งนี้เพราะผู้คนในชาติเชื่อว่ามีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง

ประการสำคัญผู้คนส่วนใหญ่มองว่ามันคงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะต้องไปเป็นที่ปรึกษาให้ ฮุน เซน และรัฐบาลกัมพูชา ในเมื่ออดีตผู้นำประเทศเป็นคนไทย กอปรกับการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดันมาเกิดในช่วงวิกฤตินี้พอดี ดังนั้นกระแสประชาชนจึงเริ่มไหลเทกลับมาสู่ฝ่ายรัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เพราะแม้แต่ผู้จงรักภักดีในตัวอดีตผู้นำประเทศยังไม่กล้าออกตัวเพราะเกรงกระแสประชาชน

ดังนั้นโอกาสที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงจะกลับมาแข็งแกร่งดังแต่ก่อนคงเป็นเรื่องยาก เพราะทั้งสองกรณีที่สร้างขึ้นมาเพื่อหวังกระแสนิยมมันตีกลับจนทำท่าว่าจะไปไม่รอด ถึงแม้จะแก้ตัวอย่างไรคงยากที่จะเรียกความรู้สึกดีๆ ให้กลับคืนมาได้ เพราะความเป็นสายเลือดไทยของประชาชนคนไทยนั้นแรงมาก และดูเหมือนว่าแรงกว่าอดีตผู้นำประเทศที่คิดเองเออเองว่าตนนั้นทำถูกต้อง ถือเป็นจุดเสื่อมถอยของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะทำตัวเองแท้ๆ

ข่าวจาก หนังสือพิมพ์บ้านเมือง/www.ryt9.com

บทวิเคราะห์

การที่ "ทักษิณ" ไปเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้กับประเทศกัมพูชา ทำให้รัฐบาลเสียศูนย์และเสียหน้าไม่น้อยเนื่องจากต่างประเทศเห็นความสำคัญของ นช.มากกว่ารัฐบาลไทย จึงพยายามออกมาปลุกระดมให้ประชาชนคลั่งชาติแต่ก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าใดนัก เหตุเพราะกรณีคนไทยไปเป็นที่ปรึกษาต่างชาติเคยมีมาก่อนหน้านี้ และถึงแม้สถานะทักษิณจะเป็น นช. แต่โปรดอย่าลืมว่าคดีที่ดินรัชดา ทั่วโลกไม่ถือเป็นความผิดและไม่ใช่แต่เฉพาะกัมพูชาเพียงประเทศเดียวเท่านั้น

ถึงแม้สื่อของรัฐและพันธมิตรฯ ร่วมกับนักวิชาการ และบรรดาลิ่วล้ออำมาตย์พยายามออกมาชี้แจงให้ประชาชนเห็นถึงผลเสียในกรณีดังกล่าว แต่ก็ถูกสื่อคนเสื้อแดงและบรรดาแกนนำซึ่งลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อชี้แจงตลอดจนมีการโฟนอินของ "ทักษิณ" อธิบายอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ผู้ที่ยังรักและศรัทธา "ทักษิณ" มั่งคงไม่เปลี่ยนแปลง

และเมื่อมีเหตุการณ์กัมพูชาควบคุมตัววิศวกรไทยข้อหาขโมยตารางบินทักษิณซึ่งเป็นแขกของรัฐบาล และเมื่อรัฐบาลกัมพูชารากยาวไปถึงข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติเพราะดันไปเอี่ยวกับข้อมูลของสมเด็จฮุนเซน จึงทำให้เกิดเรื่องราวบานปลาย และ หากเรื่องนี้มีข้อมูลหลักฐานชัดเจน รัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วโลกว่าร่วมด้วยช่วยกันกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเกณฑ์คนมาล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนถึง 3 ครั้ง ก็จะยิ่งทำให้ทั่วโลกกังขาในพฤติกรรมของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์และระบอบการปกครองของไทยมากขึ้น

และหากรัฐบาลไทยยังขืนดันทุรังไล่ล่าทักษิณไม่จบไม่สิ้น โดยไม่สนใจเรื่องปากท้องประชาชน ไม่สนใจผู้ที่ออกมาชุมนุมขับไล่ ทั้งยังมีข่าวการทุจริตคอรัปชั่นออกมาอย่างต่อเนื่อง หนำซ้ำคนของรัฐบาลลงพื้นที่มีแต่ประชาชนขับไล่แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่า ไม่ต้อนรับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ประเทศไทยก็จะยิ่งถูกจับตามองด้วยความสงสัยจากสายตาชาวโลก

ประการสำคัญหากทักษิณเดินเกมผู้นำพลัดถิ่นที่มีค่าหัว ถูกรังแกด้วยการใส่ร้ายป้ายสีเรื่องคดีที่ดินรัชดา หนำซ้ำยังอาจถูกยึดทรัพย์ที่หามาได้โดยสุจริตและมีมาก่อนหน้าจะลงเล่นการเมือง ตามด้วยการโฆษณาชวนเชื่อถึงการถูกไล่ล่าจากรัฐบาล ก็จะยิ่งทำให้ต่างประเทศเข้าใจไปว่า ท่านถูกโค่นล้มอำนาจทั้งที่คนไทยยังรักและศรัทธาหนำซ้ำยังเรียกร้องหาจนถึงปัจจุบัน

และหากมีสื่อบางแขนงที่น่าเชื่อถือฟังธงลงไปว่า "เพราะเหตุนี้เองจึงทำให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ซึ่งได้รับการอุ้มชูจากเหล่าอำมาตย์ ทหาร นักวิชาการบางส่วน สื่อ และที่สำคัญพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกมาทำร้ายประเทศชาติเสียหายหลายแสนล้านบาทเพื่อโค่นล้มรัฐบาลของประชาชนจนสำเร็จ แต่หากทักษิณยังมีชีวิตอยู่ คนเหล่านั้นมีความเชื่อว่า "เขาจะกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง และเมื่อนั้นคดีความต่างๆ ของพันธมิตรฯ รวมทั้งคนในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์จะต้องถูกรื้อฟื้น"

เมื่อถึงเวลานั้นอำนาจ วาสนาที่เคยมีมาก็จะหมดลง พวกเขาจะเดือดร้อนอย่างหนัก จึงลงมือส่งทีมไล่ล่า ชนิดไม่ตายไม่เลิก เพื่อรักษาอำนาจของเหล่าอำมาตย์และบรรดาผู้ที่อุ้มชูรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไว้นั่นเอง และหากต่างชาติได้รับข้อมูลข่าวสารตามนี้และคิดไปตามนั้น จะเกิดอะไรขึ้นกับรัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น