วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2553
สุเทพสั่งภูธร 5 จัดการอริสมันต์
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังอย่างเข้มงวดที่เขายายเที่ยง กำชับให้เก็บภาพอย่างละเอียดไว้เป็นหลักฐานเอาผิดกลุ่มคนเสื้อแดง สั่งตำรวจเร่งดำเนินคดีอริสมันต์
พล.ต.อ. ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการสั่งการตำรวจภูธร 5 ถอนประกันตัวนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ข้อหาปลุกปั่นประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมากล่าวได้เบาะแสนาย อริสมันต์เตรียมเผ่นหนีออกพม่า พร้อมกันนั้น พล.ต.อ.ปทีป ได้สั่งการเตรียมกำลัง รปภ. ป้องกันกลุ่มคนเสื้อแดงบุกเขายายเที่ยง ย้ำเน้นเจรจาตามหลักสากล
วันที่ 8 มกราคม เวลา 13.00 น.อัยการสูงสุดแถลงข่าวชี้แจงเหตุผลสั่งไม่ฟ้อง พล.อ.สุรยุทธิ์ จุลานนท์ คดีบุกรุกที่เขายายเที่ยง อ้างไม่เกี่ยวกับให้เสื้อแดงหยุดชุมนุม
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง ออกมาบอกคนเสื้อแดงยังคงเดินหน้าชุมนุมต่อไปตามกำหนดการเดิม
ด้านกองทัพบกออกมาชี้แจงจะมีการเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ เตรียมจัดวันเด็กในวัยที่ 9 มกราคมนี้ ขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก
วันนี้ (8 มกราคม)กลุ่มคนเสื้อแดงพะเยา เตรียมต้อนรับนายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เวลา 11.00 น. ที่โรงแรมเกตเวย์และ 15.00 น. ที่หน้าเทศบาลตำบลดงเจน
การเร่งดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในการทำผิดกฏหมายถือว่าดีอยู่หรอก แต่หากกระทำการอย่างไร้มาตรฐานก็อาจมีกระแสตีกลับที่รุนแรงตามมา เพราะหากเจ้าหน้าที่รัฐกระทำกับคนกลุ่มหนึ่ง แต่ละเว้นกับอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งความผิดสำเร็จไปแล้ว ฝ่ายที่ถูกกระทำก็จะยิ่งมองเห็นถึงความลำเอียง และจะยิ่งเป็นการตอกย้ำ หนำซ้ำยังสามารถนำไปกล่าวอ้างกับมวลชนที่สนับสนุนให้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านอำนาจรัฐด้วยข้ออ้างความไม่ชอบมาพากล และความไร้มาตรฐานในการบริหารงาน
อย่างกรณีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง หากนำไปเปรียบเทียบกับบรรดาแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยึดสนามบิน ยึดทำเนียบรัฐบาล ยึด NBT บุกล้อมรัฐสภา ฯลฯ เวลาล่วงเลยมานานนับปีแต่คดียังไม่คืบหน้า เหล่าบรรดาแกนนำยังคงลอยนวล คดีไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนที่ ก็จะยิ่งเห็นชัดถึงคำว่า "สองมาตรฐาน" และหากกลุ่มคนเสื้อแดงนำเหตุผลนี้มาเป็นประเด็น และนำมวลชนจำนวนหนึ่งออกมาต่อต้าน ทวงถาม ผู้มีอำนาจสั่งการจะตอบคำถามคนเหล่านั้นเช่นไร
ขอเตือนด้วยความเป็นห่วงประเทศชาติอย่าให้คำว่า "สองมาตรฐาน" มาทำลายความน่าเชื่อถือของกฏหมายบ้านเมือง อันจะส่งผลให้พี่น้องประชาชนคนไทยลุกขึ้นมาทวงถาม พล.ต.อ.ประทีป และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงการใช้อำนาจรัฐที่อยู่ในมือข่มเขงรังแกเพื่อนพ้องน้องพี่ของเขา ในขณะที่ปล่อย "ผู้ก่อการดียึดสนามบิน" ลอยนวล
แล้วยิ่งกองทัพบกเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ในช่วงที่เหตุการณ์ประจวบเหมาะเช่นนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงจะสามารถนำมาเป็นข้ออ้างได้ว่าท่านเตรียมปราบปรามพี่น้องประชาชนคนไทย ที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกับรัฐบาล หากเป็นเช่นนั้นก็จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายมากขึ้น
ไม่อยากให้ "น้ำผึ้งหยดเดียว" กรณีบ้านพักตากอาการบนเขายายเที่ยงของ พอ.อ.สุรยุทธิ์ จะลานนท์ องคมนตรีทำให้พี่น้องคนไทยต้องลุกขึ้นจับอาวุธสู้รบกันเอง รัฐบาลน่าจะวิเคราะห์ผลได้ผลเสียให้รอบคอบชัดเจนมากกว่านี้ เพระหากผิดพลาด ผลที่ตามมาคือ "เลือดเนื้อของพี่น้องคนไทยด้วยกัน"
ส่วนกรณีที่อัยการจะออกมาชี้แจงเหตุผลไม่สั่งฟ้อง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ในบ่ายวันนี้ อาจมีหลายฝ่ายมองว่ากระบวนการยุติธรรม มาตามนัด ตามเวลา เพราะมีใบสั่ง เข้าทำนองช่วงที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีก่อนงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา และกรณีนายสมัคร สุนทรเวช ที่ตกเก้าอี้ด้วยข้อหาตะหลิวกับกระทะกระนั้นหรือ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น