พล.อ.สุรยุทธิ์ จุลานนท์ องคมนตรี กล่าวไม่กังวลคนเสื้อแดงบุกเขายายเที่ยง เชื่อมั่นบ้านเมืองมีขื่อมีแป แต่ไม่รับรองรับรองหากกลุ่มคนเสื้อแดงปะทะกับชาวบ้านในพื้นที่ที่ไม่พอใจกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้
ด้านนายคำนูญ สิทธิสมาน ส.ว.สายพันธมิตรฯ ออกมากล่าว อัยการส่งหนังสือถึงกรมป่าไม้กรณีเขายายเที่ยง สั่งไม่ฟ้องพล.อ.สุรยุทธิ์ แต่ให้คืนที่ดินที่ตนครอบครอง
ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อชี้แจงกลุ่มคนเสื้อแดงกรณีที่ดินเขายายเที่ยง อ้างกรมป่าไม้กำลังขอคำปรึกษาอัยการ
หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า หากผู้ที่ปลูกบ้านอยู่บนเขายายเที่ยงไม่ใช่ พล.อ.สุรยุทธิ์ จุลานนท์ องคมนตรี หรือที่คนรากหญ้าเรียกว่าอำมาตย์ แต่เป็นชาวบ้านธรรมดา ส่วนราชการจะดูแลเอาใจใส่เช่นนี้หรือไม่ มีตัวอย่างให้เห็นกรณีผู้ที่เข้าไปทำมาหากินอยู่ที่ตีนเขา ซึ่งถูกจับติดคุก 4 ปี
แต่องคมนตรีกลับได้รับอภิสิทธิ์ปลูกบ้านบนเขายายเที่ยงมานาน โดยไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปแตะต้อง กระทั่งกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาแฉและดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย แต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์กลับเพิกเฉยจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่คนบางกลุ่มมองว่า “เป็นความไร้มาตรฐาน”
และคงเพราะเหตุนี้มวลชนคนเสื้อแดงจึงจะพากันแห่ไปทวงถามหามาตรฐานในการการบริหารประเทศ ระหว่างอำมาตย์และประชาชน ในวันที่ 11 มกราคมนี้ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าถึงการกระทำอันไร้มาตรฐานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์
ไม่มีใครอยากให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อระหว่างคนไทยด้วยกัน จึงฝากเตือนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลป้องกันไม่ให้เกิดเหตุปะทะระหว่างชาวบ้านและกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างใกล้ชิด
ปกติคนไทยมีนิสัยรักสงบ โดยเฉพาะคนภาคอีสานที่ต้องดิ้นรนทำมาหากินเพื่อครอบครัว แต่หากมีกลุ่มบุคคลโพกผ้าอำพลางใบหน้ามาพร้อมอาวุธครบมือในขณะที่อีกฝ่ายไปอย่างสันติ ปราศจากอาวุธ และเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น แนวหลังมวลชนคนเสื้อแดงซึ่งไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัดว่ามีมากน้อยแค่ไหน อาจใช้เป็นเหตุระดมพลชุดใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าว
แนวหลังอย่างกลุ่มคนรากหญ้าที่หลายฝ่ายตราหน้าว่าไร้การศึกษา ซื้อสิทธิ์-ขายเสียง อาจกระทำการอันไม่พึงประสงค์เพื่อปกป้องญาติพี่น้องและคนในครอบครัวของเขา เหมือนที่คนเสื้อแดงเรียกและมองพวกเขาเป็น "ครอบครัวคนเสื้อแดง" และนั่นอาจส่งผลกระทบร้ายแรงบานปลายจนใครๆ ก็คาดไม่ถึง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น