วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ม.ท.กำชับผู้ว่าจับตาแก๊งล้มเจ้า
กระทรวงมหาดไทยกำชับผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดจับตาแก๊ง "ล้มเจ้า" นักวิชาการชี้สะสางก่อนหายนะ
จากกรณีที่มีข่าวคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ในเดือนพฤศจิกายน หากแต่เพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ทำให่แกนนำแต่ละพื้นที่ เดินสายทำกิจกรรมในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ด้วยเหตุผลว่าเพื่อระดมทุน "ล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย"
จากกรณีดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยเกรงว่าจะมีการปลุกปั่นประชาชนในต่างจังหวัด จึงกำชับผู้ว่าราชการจังหวัดให้สอดส่องดูแลพื้นที่ของตนอย่างใกล้ชิด ถึงกับมีการออกมาประกาศว่า หากปล่อยคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวจะสั่งย้ายผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ
ด้วยเหตุผลว่า "แก๊งล้มเจ้าพยายามปลุกปั่นประชาชนด้วยข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ" โดยมีนักวิชาการหลายท่านออกมาขานรับและให้ข่าวกับสื่อกระแสหลักไปในทำนองเดียวกัน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้คนเสื้อแดงในพื้นที่แทบทุกจังหวัดถูกจับตามองจากคนของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด บางแห่งมีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตามประกบตัวแกนนำและผู้ต้องสงสัย ทำไห้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ในการประกอบสัมมาอาชีพประจำวัน
"ประชาธิปไตย แต่กต่างแต่ไม่แตกแยก" แต่หากรัฐบาลพยายามปิดกั้นไม่ยอมให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารทั้งสองด้าน แล้วปล่อยให้เขาเหล่านั้นใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ อาทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจไปว่าเป็นการ "ปิดกั้นการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร" เข้าข่ายเผด็จการและยังมีความพยายามยัดเยียด "ข้อหาร้ายแรง" ให้กับคนไทยบางกลุ่ม
หากรัฐบาลกระทำการเยี่ยงนี้ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา ก็อาจทำให้ประชาชนแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมากกว่าที่เป็นอยู่ เหตุเพราะฝีมือของรัฐบาลเอง "นับแต่นี้จึงอยากขอร้องสื่อสารมวลชนและประชาชนช่วยกันจับตาดูการทำงานของกระทรวงมหาดไทย" อย่าได้กระพริบตา
เพระหากมีการใช้อำนาจรัฐเกินขอบเขตเข้าไปคุกคามมชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทำให้เกิดความหวาดกลัวและขาดอิสรภาพ อาจมีประชาชนบางกลุ่ม ลุกฮือขึ้นต่อต้านการกระทำของรัฐในแต่ละพื้นที่ก็อาจเป็นได้
วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552
กฤษฎีกาฟัน "ทักษิณ"
จับตาสื่อ "สร้างจินตนาการแดงล้มเจ้า"
ทักษิณโพสต์ทวิตเตอร์ "ผู้นำชาติอาเซียนโทรบ่น"
วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ตายเร็ว หรือ อายุยืนเลือกเอา
ปชป.แฉ มีหลักฐานชัดกรณีแม้ว-สมเด็จฯ ฮุนเซน
ซัด"ทักษิณ"ใช้ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศไทย หวังโค่นรัฐบาล พันธมิตรจวก"บิ๊กจิ๋ว" ชักศึกเข้าบ้าน จี้รัฐบาลออกแถลงการณ์ตอบโต้ พท.ได้ทีเรียกร้องให้ปลด"กษิต" เปิดทางให้"พล.อ.ชวลิตไช่วยงานด้านต่างประเทศ
นายกฯไม่มีโอกาสคุย"ฮุน เซน"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม กรณีสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ปฏิเสธที่จะส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนให้ประเทศไทย หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปลี้ภัยในประเทศกัมพูชา ว่าไม่ค่อยมีโอกาสได้คุยกับสมเด็จฯฮุน เซน มีแต่สมเด็จฯฮุน เซน มาพูดกับตนแค่นิดเดียว คือบอกว่าจะสนับสนุนให้เดินหน้ากลไกตามข้อริเริ่มเชียงใหม่ เรื่องที่เป็นข่าวไม่อาจยกมาคุยในการประชุมครั้งนี้ได้ "จุดยืนของผมก็ยังเหมือนกับที่เคยแถลงไปแล้ว" นายอภิสิทธิ์กล่าว
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ส.ส.สัดส่วน โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงว่า หลายฝ่ายสงสัยว่าสมเด็จฯฮุน เซน และ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะรู้กันในการดำเนินการ เพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนด้วย
นอกจากนี้การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) เคยระบุได้นำคลิปการปราศรัยบนเวทีพันธมิตรของนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ด่าสมเด็จฯฮุน เซน ไปให้ลูกสาวของสมเด็จฯฮุน เซน รวมถึงการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้าพบสมเด็จฯฮุน เซน ก็ถือว่าสอดคล้องกับความน่าสงสัยเรื่องการเอาประโยชน์ของประเทศไปแลกประโยชน์ส่วนตัวของรัฐบาลในอดีต
ซึ่งเป็นที่มาของความเข้าใจผิดระหว่างประเทศ ถือเป็นการเอาขัดแย้งด้านความมั่นคงเข้าสู่ประเทศ หากผู้ดำเนินการไม่เห็นแก่บ้านเมือง ก็ขอให้ฟังคำเตือนของผู้ใหญ่ที่ระบุว่าระวังจะทรยศต่อชาติ ปชป.วอนคนไทยปกป้องศักดิ์ศรี
"หาก พ.ต.ท.ทักษิณ มั่นใจว่าคดีที่เกิดขึ้นเป็นความผิดทางการเมือง เหตุใดจึงโดนถอนวีซ่าจากหลายประเทศ และไม่ขอลี้ภัยทางการเมืองที่กฎบัตรสหประชาชาติ เพราะความจริงคดีดังกล่าวเป็นคดีอาญาแผ่นดิน จึงไม่สามารถขอลี้ภัยได้"
นพ.บุรณัชย์กล่าว และว่า พรรควิเคราะห์ว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการยกระดับ จากยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ มาเป็นการยืมมือประเทศเพื่อนบ้านกดดันประเทศไทยโดยตรง แต่โชคดีที่ประชาคมอาเซียน ปฏิเสธไม่ยุ่งกับกิจการประเทศอื่น
ทั้งนี้เชื่อว่า จะมีการเดินสายต่อเนื่องกดดันแบบนี้ เพื่อให้สอดรับการประชุมเอเปค และการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ จึงขอให้ประชาชนรู้เท่าทันออกมาปกป้องเกียรติภูมิศักดิ์ศรี ปกป้องกระบวนการยุติธรรมไม่ให้โดนล่วงล้ำอธิปไตยด้วยวิธีการดังกล่าว
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง กรรมการบริหาร ปชป. กล่าวว่า ขอให้คนไทยใช้เหตุผลในการพิจารณาเพื่อให้รู้เท่าทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่การที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงชื่นชมนายกฯต่างประเทศ และโจมตีผู้นำของตัวเอง ก็จะมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้นขอให้แกนนำเสื้อแดงไปอยู่กัมพูชา จะได้ไม่มีปัญหา
ทำข้อมูลแฉ"แม้ว-ผู้นำเขมร"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมโฆษก ปชป. ได้เตรียมจัดทำข้อมูลเพื่อชี้แจงให้ประชาชนรับทราบถึงความเชื่อมโยงระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับสมเด็จฯฮุนเซน ในการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน จนทำให้สมเด็จฯฮุน เซน ต้องออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวกับไทย ซึ่งจะมีการไล่เรียงถึงพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่เป็นรัฐบาล ที่ได้สัมปทานโทรศัพท์มือถือในกัมพูชา ต่อเนื่องมาจนถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อนุมัติให้ความเห็นชอบให้มีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
นอกจากนี้ที่น่าจับตามองที่สุดคือ ผลประโยชน์ในการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติในกัมพูชา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่เปิดเผยในหนังสือชี้ชวน และรายงานประจำปีของตลาดหลักทรัพย์ที่มีการบ่งบอกถึงการขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้กับกลุ่มเทมาเส็ก ซึ่งจะทำให้เทมาเส็ก ได้ดูแลผลประโยชน์ทุกรายการที่บริษัทชินคอร์ปฯ ได้รับจากกัมพูชาด้วย ซึ่งมีระยะเวลาสัมปทานถึง 99 ปี
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกส่วนตัวหัวหน้า ปชป.กล่าวว่า ท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ออกมาเชิดชูสมเด็จฯฮุน เซน เหมือนเทพเจ้าประจำตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เข้าใจว่าเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณกำลังเดินแผนยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศไทย โดยใช้ 3 ยุทธวิธี คือ 1.การให้นานาชาติปิดล้อม ต่อต้านประเทศไทย 2.การต่อรองกับสถาบัน 3.โค่นล้มรัฐบาล ปชป.
"สุริยะใส" ให้ "ชวลิต" พิสูจน์ 3 ข้อ
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตร ในฐานะเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) และนายสำราญ รอดเพชร โฆษก ก.ม.ม. ร่วมแถลงถึงกรณีสถานการณ์ทางการเมืองและสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน โดยนายสุริยะใสกล่าวว่า บทบาทของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี สมาชิก พท.ไปพบ สมเด็จฯฮุน เซน เป็นการสารภาพหรือเปลือยกายล่อนจ้อนว่า ภารกิจครั้งนี้ คงเป็นภารกิจเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ
"ถ้า พล.อ.ชวลิตต้องการพิสูจน์ตัวเองหรือสร้างความน่าเชื่อถือ จะต้องพิสูจน์ตัวเอง 3 ประการ จึงจะมีเครดิตและมีน้ำหนักพอที่จะสามารถพูดคุยกับคนนั้นคนนี้ได้ คือ
1.ถ้า พล.อ.ชวลิต หวังดีกับประเทศชาติจริง จะต้องใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือความสัมพันธ์ที่ดีที่มีต่อสมเด็จฮุน เซน หาทางคลี่คลายข้อพิพากษ์กรณีปราสาทเขาพระวิหาร
2.พล.อ.ชวลิต ต้องหว่านล้อมเจรจาและชักนำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดโจมตีกระบวนการยุติธรรม เคารพคำพิพากษาของศาล และกลับมารับผิด และ
3.พล.อ.ชวลิต จะต้องป้องปรามและห้ามปรามการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และคนใน พท."
นายสุริยะใสกล่าว และว่า วันที่ 27 ตุลาคมนี้ เวลา 12.00 น. ที่บ้านพระอาทิตย์ ทั้ง 5 แกนนำพันธมิตร จะมีการประชุมเพื่อแถลงจุดยืนและข้อเท็จจริงทั้งหมดถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต จะมีการติดต่อเข้าพูดคุยกับทั้ง 5 แกนนำพันธมิตร
จี้"อภิสิทธิ์"ตอบโต้กัมพูชา
นายสุริยะใสกล่าวว่า บทบาทของสมเด็จฮุน เซน ที่มีต่อเวทีอาเซียน สะท้อนถึงความล้มเหลวทางด้านนโยบายการต่างประเทศของรัฐบาลชุดนี้ เรื่องนี้ควรจะต้องมีการออกแถลงการณ์เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของคนไทย ซึ่งคำพูดของสมเด็จฮุน เซน เป็นการท้าทายกระบวนการยุติธรรมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ผิด ดังนั้นรัฐบาลจะต้องออกแถลงการณ์เพื่อยืนยันกับประชาคมโลกว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยน่าเชื่อถือ
นายสำราญกล่าวว่า กรณีที่ พล.อ.ชวลิต เดินทางไปเข้าพบสมเด็จฮุน เซน จนทำให้ผู้นำกัมพูชาได้แสดงท่าทีเอื้อเฟื้อถึงขนาดจะสร้างบ้านพักให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นับเป็นบทบาทที่ซ้ำเติมสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งไม่น่าจะเป็นบทบาทของคนที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 22 ของไทย เพราะแทนที่จะแปรศักยภาพความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้นำกัมพูชาเพื่อบ้านเมืองกลับไปแสดงบทบาทในลักษณะชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน
ปลด"กษิต"เปิดทางให้"ชวลิต"
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษก พท. กล่าวว่า คำให้สัมภาษณ์ของสมเด็จฮุน เซนกรณีไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ผิดพลาด นายกรัฐมนตรีควรใช้โอกาสนี้ปรับเปลี่ยนนโยบายด้านต่างประเทศ และปรับนายษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกจากตำแหน่ง โดยเป็นการตัดอวัยวะที่มีปัญหาทิ้งไปเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ แล้วเปิดโอกาสให้ พล.อ.ชวลิต ในฐานะตัวแทนของ พท. ที่มีความสัมพันธ์กับผู้นำประเทศต่างๆ โดยเฉพาะกัมพูชา พม่า และมาเลเซีย เป็นอย่างดีเข้าไปช่วยแก้ปัญหาในฐานะผู้นำที่ไปเชื่อมความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดย พท.ไม่ได้ขอให้แต่งตั้ง พล.อ.ชวลิต เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แต่ขอให้เปิดโอกาสให้ พล.อ.ชวลิต ได้ไปช่วยด้านต่างประเทศเท่านั้น
ให้นายกฯตบปาก2โฆษก
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า การที่โฆษก ปชป.กล่าวหาว่าทีมงานโฆษก พท.อยู่เบื้องหลังการออกมาแสดงจุดยืนไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ของโฆษกรัฐบาลกัมพูชานั้น ขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิง เพราะพรรครู้ดีว่าประเทศเพื่อนบ้านมีอธิปไตยและสามารถแสดงจุดยืนของตัวเองได้
"นพ.บุรณัชย์ ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาตกต่ำและมีปัญหา เป็นการพูดแบบปากพาจน เนื่องจากเป็นการดิสเครดิตประเทศเพื่อนบ้านและใส่ร้ายป้ายสีพรรคเพื่อไทย เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของพรรคตัวเอง เป็นการกระทำที่ขาดวุฒิภาวะ ในลักษณะเดียวของนายเทพไท ที่พูดแล้วทำให้กัมพูชาสั่งเพิ่มทหารบริเวณเขาพระวิหาร หากนายอภิสิทธิ์ เป็นผู้นำที่เข้าใจในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ จะต้องเรียกนายเทพไท และนพ.บุรณัชย์ มาตบปาก เพราะพูดแล้วทำให้นายกรัฐมนตรีไทยเสียรังวัดอย่างเห็นได้ชัด" นายพร้อมพงศ์กล่าว
สมัชชาฯนัดชุมนุมประณาม
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการเครือข่ายสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เครือข่ายฯจะระดมประชาชนมารวมใจปกป้องบ้านเมือง โดยจะประท้วงที่หน้าสถานทูตกัมพูชา ประจำเทศไทยในเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม เพื่ออ่านแถลงการณ์ประณามสมเด็จฮุน เซน และ พล.อ.ชวลิต โดย พล.อ.ชวลิตเป็นผู้เขี่ยลูกก่อน จึงเปรียบเสมือน "พระยาจักรีที่ชักศึกเข้าบ้าน" กรณีนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องมีท่าทีต่อพล.อ.ชวลิต ในฐานะสมาชิก พท.ว่ามีการกระทำที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่
"ผู้นำไทยต้องเชิญสมเด็จฮุน เซน ออกนอกประเทศทันทีที่มาพูดกล่าวหากระบวนการยุติธรรมของไทยแบบนี้ แต่นายกฯกลับแสดงท่าทีน้อยเกินไป และขณะนี้สมเด็จฮุน เซน รุกคืบในพื้นที่ทับซ้อนชายแดนไทย-กัมพูชาเข้ามาแล้ว หากไม่มีท่าทีใดๆ ก็ต้องใช้กองทัพเข้าประชิดพรหมแดนชายแดนดังกล่าว และนายกฯไทยมาอ้างมารยาทการทูตหรืออ้างสุภาพบุรุษไม่ได้ ต้องใจนักเลง แต่นายอภิสิทธิ์กลับอ่อนแอ ใจไม่เข้มแข็งพอต่อการดำเนินท่าทีต่อกัมพูชมา ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ไม่เหมาะสมความเป็นผู้นำในวิกฤตความขัดแย้งได้" นายไชยวัฒน์กล่าว
ข่าวจาก Matichon Online
บทวิเคราะห์จากมือใหม่
มีคนไทยจำนวนมากตั้งตาคอยข้อมูลจากพรรค ปชป.ที่เตรียมออกมาแฉความสัมพันธ์ระหว่างแม้ว-ฮุนเซน อย่างใจจดใจจ่อ หากมีข้อมูลหลักฐานจริง ประชาชนขอวอนว่าอย่าช้า รีบนำออกมาเปิดเผยโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นอาจมีหลายฝ่ายมองว่าเป็นการออกมาพูดผ่านสื่อเพื่อต้องการใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายตรงข้าม
และหากทักษิณใช้ยุทธศาสตร์ "โลกล้อมประเทศเพื่อหวังโค่นล้มรัฐบาล" หากรัฐบาล ปชป. แน่ใจว่าทำถูกต้องและมีหลักฐานชัดเจน จะกลัวไปใยกับสายตาประชาคมโลก และที่สำคัญสื่อในยุคปัจจุบันก้าวล้ำทันสมัย มีหรือนานาชาติจะไม่ล่วงรู้ข่าวสารจากประเทศไทย
กรณีพันธมิตรฯ จวกบิ๊กจิ๋วชักศึกเข้าบ้าน คงมีคนไทยจำนวนไม่น้อยอยากถามว่าแล้วการกระทำของพันธมิตรฯ เมื่อครั้งอดีต เขาเรียกว่า "ปล้นชาติ เพื่อส่งให้นายอภิสิทธิ์และพรรคพวกกินรวบประเทศไทย" ใช่หรือไม่
กรณีสมเด็จฯ ฮุนเซน แห่งกัมพูชาปฏิเสธที่จะส่งตัวทักษิณเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ในฐานะเพื่อนที่มีความจริงใจต่อกัน หลายคนอาจมองว่านั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง "เพื่อนย่อมไม่ทรยศเพื่อน" และไม่ทำตัวเป็นงูเห่ายามเพื่อนตกทุกข์ได้ยาก และนั่นคือ "มิตรแท้" สิ่งนี้ต่างหากที่คนเสื้อแดงให้การยกย่อง และบางทีแม้แต่ประชาคมโลกอาจยกย่องสรรเสริญในความเป็นเพื่อนแท้ด้วยเช่นกัน
ส่วนกรณีที่ น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ออกมาวิเคราะห์ว่า พ.ต.ททักษิณและสมเด็จฯ ฮุนเซนน่าจะรู้กันในการดำเนินการเพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลก็เป็นการคาดการณ์ นั่นคือ "การเดา" โดยไม่มีข้อมูลหลักฐานชี้ชัด
กรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นำคลิปการปราศรัยของนายกษิต ภิรมย์ ที่เคยวิพากษ์วิจารณ์สมเด็จฯ ฮุนเซนบนเวทีพันธมิตรฯ ไปให้ลูกสาวสมเด็จฯฮุนเซนดู เรื่องนี้ก็ไม่แปลกเพราะนายกษิต ภิรมย์ทำเช่นนั้นจริงๆ
ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์กรณี พล.อ.ชวลิตไปเยือนกัมพูชาว่าประจวบเหมาะกับเหตุการณ์ ว่าน่าจะมีการเอาผลประโยชน์ของประเทศไปแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัวของรัฐบาลในอดีต นั่นก็เป็นการคาดเดา ซึ่งปราศจากข้อมูลหลักฐานยืนยัน แต่หากรัฐบาลมีหลักฐานชัดเจน ก็ควรนำออกมาเปิดเผยให้คนไทยและต่างชาติรู้ทั่วกัน
กรณีนายบุรณัชย์และนายสุริยะใสพูดทำนองขอร้องประชาชนให้ออกมาปกป้องเกียรติภูมิและศักด์ศรีของขบวนการยุติธรรมและประเทศชาติ คงมีคนอีกจำนวนไม่น้อย อยากทราบว่าศักดิ์ศีรีของใคร นายกษิต ภิรมณ์ พรรคประชาธิปัตย์ หรือเพื่อพันธมิตรฯ กันแน่
กรณีที่มีคนออกมาพูดถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองออกมาเตือน "ระวังจะเป็นการทรยศชาติ" คงมีคนสงสัยไม่น้อยว่า กรณีเพื่อนช่วยเพื่อนของสมเด็จฯ ฮุนเซน กรณี พล.อ.ชวลิต ไปเยือนกัมพูชา ทรยศชาติตรงไหน แล้วการปิดล้อมรัฐสภา บุกยึดทำเนียบรัฐบาล ปิดสนามบิน เขาเรียกว่า "ทำเพื่อชาติ" อย่างนั้นหรือ
กรณีที่พรรค ปชป.เตรียมไม้เด็ด แฉ พ.ต.ท. ทักษิณคนไทยตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ ขอให้เร่งดำเนินการโดยด่วน หากชักช้า อาจถูกพ.ต.ท.ทักษิณและสมเด็จฯฮุนเซน นำไปเป็นประเด็นฟ้องต่างชาติว่าถูกรัฐบาลไทยใส่ร้ายป้ายสีให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จะส่งผลให้รัฐบาลอภิสิทธิ์อับอายขายหน้าชาวโลกที่กุข่าวโดยไม่มีมูลมาเปิดเผย เท่ากับเจตนาหลอกลวงประชาชนโดยแท้
ส่วนนายสุริยะใส ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ ชวลิต ยงใจยุทธ คงมีคนหลายคนตั้งคำถามว่า สุริยะใส คือใคร มีสิทธิ์อะไรไปสั่ง พล.อ ชวลิต ในขณะที่ตัวเองถูกประชาคมโลกและคนไทยนับล้านมองว่าเป็น "ผู้ก่อการร้าย" ทำให้ประเทศชาติเสียหายนับแสนล้าน และมีส่วนอุ้มสมนายอภิสิทธิ์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
และเมื่อสมหวังได้รัฐบาลภายใต้การนำของ ปชป. รัฐบาลชุดนี้จึงทำทุกวิถีทางเพื่อตอบแทนบุญคุณ กระทั่งผู้ก่อการร้ายกำลังจะกลายเป็นผู้การการดีในปัจจุบัน ผิดกับสายตาชาวโลกที่นับวันรอว่าเมื่อไหร่คดีปิดสนามบิน บุกยึดทำเนียบรัฐบาล ปิดล้อมรัฐสภาจะได้รับการสะสาง
ส่วนกรณีที่นายชัยวัฒน์ สินสุวงศ์ออกมาประกาศว่าจะระดมประชาชนมารวมใจป้องกันบ้านเมือง อยากถามว่าที่ทำแบบนั้น เป็นการปกป้องบ้านเมือง หรือเผาบ้านเผาเมืองกันแน่ เพราะหากประเทศเพื่อนบ้านเจอท่าทีแข็งกร้าวของประชาชนชาวไทยจนเข็ดขยาดไม่กล้ามาลงทุนและพากันตัดส้มพันธ์ ประเทศไทยซึ่งพึ่งพาการค้าขายและการส่งออกเป็นส่วนใหญ่ จะเกิดอะไรขึ้น?
ส่วนที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ไปเยือนกัมพูชาในฐานะมิตร แล้วนายชัยวัฒน์นำมาประติดประต่อเรื่องราวโดยปราศจากข้อมูลหลักฐาน ซ้ำยังว่า พล.อ. ชวลิตเปรียบเสมือน "พระยาจักรีชักศึกเข้าบ้าน" คงมีคนไทยจำนวนไม่น้อยอยากถามว่า แล้วผู้ที่บุกยึดทำเนียบ ปิดล้อมสนามบิน ล้อมรัฐสภา ควรเปรียบเทียบกับอะไร แล้วการที่รัฐบาลนำผู้ก่อการร้ายในสายตาชาวโลกมาเป็นรัฐมนตรี...หมายความว่าอย่างไร?
อาจเป็นเพราะสาเหตุนี้ด้วยหรือไม่ ที่ทำให้รัฐบาลอภิสิทธิ์เสื่อมในสายตาคนไทย และประชาคมโลก เนื่องจากการวางตำแหน่งงานสำคัญผิดพลาด เพราะเมื่อนายกษิต ภิรมย์ เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ งานหลักก็คือการไล่ล่าทักษิณอย่างที่รู้ๆ กันอยู่
แต่เมื่อตัวนายกษิต ภิรมย์ถูกคนไทยและต่างชาติตั้งข้อสงสัย โดยเฉพาะกัมพูชาซึ่งนั่นเป็นเพราะปากพาจนของนายกษิตไปวิจารณ์สมเด็จฯ ฮุนเซน กลับมีผู้พยายามเชื่อมโยงให้ประชาชนออกมาต่อสู่เพื่อประเทศชาติ หากคนไทยจะฉุกคิดสักนิด ว่าตกลงเขาเรียกร้องให้สู้เพื่อชาติ หรือสู้เพื่อนคนของพันธมิตรฯ กันแน่ ก็จะดีไม่น้อย
ขอให้ผู้ที่ได้รับข่าวสารพิจาณาให้รอบคอบ ว่าข่าวสารที่ปราศจากข้อมูลหลักฐานชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนออกมาให้ข่าวก็แล้วแต่ ควรพิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ไม่ใช่เชื่อเพราะคนๆ นั้นพูดแล้วเป็นข่าว หรือเชื่อเพราะเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ....
วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2552
สัมพันธภาพระหว่างทักษิณ-ฮุนเซน
วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2552
เกมอำนาจ วงจรอุบาทว์และบทวิเคราะห์การเมืองจากมือใหม่
ก่อนที่จิ๋วจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยผมก็ให้คนไปบอกเขาว่า จะทำอะไรก็ขอให้คิดให้รอบคอบ ไตร่ตรองให้รอบคอบ ซึ่งผมใช้คำว่า “ไตร่ตรองให้รอบคอบ” ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นการกระทำที่ทรยศต่อชาติ นี่เป็นข้อความที่ผมสื่อไปถึงจิ๋ว
ในตอนเช้าวันนั้น” คำพูดของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่ส่งสาร บอกผ่านสื่อมวลชนไปถึง พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ สหายศึก คู่ทุกข์ คู่ยาก ที่ปันใจไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย ศัตรูตลอดกาลของ พล.อ.เปรม สารนี้อาจจะไม่ได้ตั้งใจจะส่งถึง พล.อ.ชวลิต แต่ผู้เดียว แต่อาจจะเตือนใครหลายคนที่กำลังบ่ายหน้ามุ่งสู่พรรคเพื่อไทย
ต้องยอมรับว่าบรรยากาศของพรรคเพื่อไทยตอนนี้ร้อนแรงทีเดียว เพราะนอกจาก พล.อ.ชวลิต ที่เปิดตัวอย่างครึกโครมแล้ว ที่ไม่น้อยหน้ากัน คือนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ที่นำโดย พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ที่นำอดีตนายทหารเพื่อนร่วมรุ่นกว่า 50 ชีวิตเดินเข้าพรรค โดยที่เหลือก็กำลังทยอย ตาม ทิ้งให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานรุ่นอยู่เดียวดายก็ได้ขุนทหารอีกคนที่เปิดตัวมาอย่างฮือฮา คือ พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ อดีต รอง ผบ.ทบ. และนายทหาร คมช. ที่เคยมีประวัติลากตัวแกนนำเสื้อแดง และแกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าไปสอบสวนในค่ายทหารเขตภาคเหนือมาแล้ว
ทางด้านดารา นอกจากที่มีพระเอก กรุง ศรีวิไล เป็น ส.ส.อยู่ก่อนแล้ว พรรคยังเปิดตัว สมบัติ เมทะนี ที่ประกาศจองเก้าอี้ ส.ส. ในเขตลาดพร้าว วังทองหลาง และบอกว่าจะยังมีดาราอีกมากมายหลายคนมาเพื่อขอลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคอีก
ทางด้านนักการเมืองล่าสุดจากการเปิดตัว ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคประชาธิปัตย์ ที่ผลงานโด่งดังคือตรวจ สอบการทุจริตรถและเรือดับเพลิงของ กทม. จนทำให้ อภิรักษ์ โกษะโยธิน ต้องลาออกจากผู้ว่าฯ กทม. และคนเพื่อไทยยังแกล้งทำข่าวหลุดว่า จะมี ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์อีกไม่ต่ำกว่า 5 ชีวิต พร้อมมา เมื่อปี่กลองการยุบสภาดังขึ้น
นอกจากนี้ยังมี ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นคนทรยศในสายตาพรรคเพื่อไทยเข้ามาด้วยดูแล้ว บรรยากาศ ซาบซ่า สดใส ยิ่งนัก
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำคนสำคัญ ยืนยันหนักแน่นว่า ในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงเกินครึ่ง และจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวแน่นอน !!! และจะขอนิรโทษกรรมทุกสิ่งทุกอย่างให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และจะนำรัฐธรรมนูญปี 40 กลับมาใช้ แต่ทุกอย่างจะเหมือนที่คิดอย่างนั้นหรือ เหมือนสุภาษิตของจีนที่ว่า “การกระทำขึ้นอยู่กับคน แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับฟ้า”
มาดูบทบาท พล.อ.ชวลิต ที่ว่ารอบนี้หวังถึงเก้าอี้นายกฯ ถึงตอนนี้จะทำตัวลีบเล็ก ไม่ขอมีตำแหน่งอะไร แต่งานชิ้นแรกที่ขมีขมันทำเพื่อหวังเข้าตาประชาชนและนายใหญ่ คือเดินทางไปยังกัมพูชาเข้าพบนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรี โดยมั่นใจว่าความสัมพันธ์ที่มีอยู่แต่เดิมจะสร้างภาพให้ พล.อ.ชวลิต ดีขึ้น
แต่การณ์ตรงกันข้าม ผู้นำกัมพูชากลับวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมของไทย ถึงกับจะสร้างบ้านต้อนรับคนที่หนีการตัดสินของศาลไทย เหมือนไม่แยแส ไม่เห็นสถาบันศาลของไทยอยู่ในสายตา และไม่ทราบว่าใช้ตำแหน่งแห่งหนอะไร ที่ พล.อ.ชวลิต ต้องไปเจรจา ทั้งที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ไปคุยเรื่องการลงทุนก๊าซและน้ำมัน กับคนที่เคยถูกพาดพิงว่าเคยหวานชื่นกับรัฐบาลก่อนๆ ของไทยเพราะได้ พื้นที่อุดมพลังงานเหล่านี้ไปครอบครอง และ พล.อ. ชวลิต ทำเหมือนไม่รู้ว่ากำลังคุยกับคนที่ประกาศจะยิงคนไทยทุกคนที่เข้าไปในดินแดนทับซ้อนบนเขาพระวิหารคำพูดที่ว่า ทรยศต่อชาติ จึงไม่ใช่แค่คำพูดที่ลอยในอากาศ
ส่วนภาพของขุนทหารเดินตบเท้าเข้าพรรค อาจจะอยู่ในความยินดีของผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย แต่อารมณ์ของ ส.ส. กลับตรงกันข้าม ซึ่งเริ่มตั้งแต่ พล.อ.ชวลิต ขนนายพล นักวิชาการ และอดีต ส.ส.พรรคความหวังใหม่เข้าพรรคมาแล้ว เพราะเก้าอี้ ส.ส.ทั้งสภามี แค่ 480 ตัว แต่เดิมก็แย่งชิงกันแทบตาย แต่วันนี้มีนายทหารมาเข้าชิงอีกร่วม 50 คน ซึ่งแต่ละคนก็เส้นใหญ่ เพราะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น กับนายใหญ่หัวหน้าพรรคตัวจริง ถ้าอยากจะลงและออกปากกับนาย มีหรือนายจะไม่ให้
ส่วนที่คาดหวังว่า จะให้ขุนทหารเหล่านี้จะมาค้ำจุนบัลลังก์การเมืองของพรรคเพื่อไทยในภายภาคหน้าก็เลื่อนลอย เพราะขณะอยู่ในราชการ คนเหล่านี้ก็ไม่ได้คุมกำลังอะไร และยิ่งเกษียณอายุราชการด้วยแล้ว เหตุที่มาเข้าพรรค สงสัยเพราะสลัดหนีอำนาจราชศักดิ์ไม่พ้น
ในส่วนของเก้าอี้ ส.ส.กทม. นอกจากผู้ที่ลงสมัครครั้งที่แล้วที่ได้รับว่าจะให้ลงอีกรอบแล้ว พรรคยังมีสัญญาใจกับแกนนำเสื้อแดงที่จะลงหลายคนแล้ว และยังมีทีมดาราแห่ลงมาอีก จะหาเก้าอี้ที่ไหนพอให้ ข่าวชิ้นแรกของขุนทหารที่ออกมา คือ ขุนทหาร ตท.10 ระแวง พล.อ.จิรเดช อดีต คมช. ที่อาจจะเป็นยุทธการม้าไม้เมืองทรอย เข้ามารายงานเรื่องในพรรคกลับไปรายงานสีเขียวที่อยู่ในกองทัพก็ได้
สำหรับเรื่องกระบวนการหาเสียงเลือกตั้งคราวหน้า ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ วีดีโอลิงค์มาในเมืองไทยและกระจายไปตามจุดหาเสียงพร้อมกัน 50 จุด ฟังดู ก็เป็นเรื่องทันสมัยดี แต่ลืมไปว่าสถานะอีกด้านหนึ่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ คือผู้ต้องโทษ หนีคดีหนีคุก ถ้าใช้ยุทธวิธีนี้หาเสียง ถึงจะได้ ส.ส.มากแต่ต้องมีปัญหากับทาง กกต.แน่ๆ
อีกทั้งศัตรูคู่อาฆาตอย่างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่แหย่เท้าเข้ามาในระบบรัฐสภาในนามพรรคการเมืองใหม่ และยังอ้างสงวนสิทธิ์ ประกาศพร้อมต่อสู้กันทั้งในระบบรัฐสภาและบนท้องถนน ยังไม่นับกองทัพที่รู้ตัวดีว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลเมื่อไหร่ มีการย้ายล้างบางกันแน่ๆ และพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้อำนาจรัฐ ก็ต้องหาทางถีบตัวให้เลือกตั้งใหญ่ได้เสียงอันดับหนึ่งให้ได้
ศึกภายนอกที่ว่าหนัก ก็มาเจอศึกภายใน ที่รุมทึ้งแย่งเก้าอี้กันแล้ว ยังมีเรื่องตำแหน่งหัวหน้าพรรคตัวจริง ที่ต้องมีบารมี เป็นที่ยอมรับไม่เช่นนั้น ต่อให้มี 10 ทักษิณ 100 ชวลิต ก็เอาพรรคเพื่อไทยไม่อยู่แน่ !!!
ข่าวจาก ryte.com
บทวิเคราะห์จากมือใหม่ แบบคนที่ไม่เคยสัมผัสกับบรรยากาศในพรรคการเมือง
“ศึกนอกยังไม่จบ ศึกในอย่าเพิ่งปะทุ”
ปัจจุบัน คติที่ควรยึดถือ คือ “ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ไม่ใช่ค่าของคน อยู่ที่คนของใคร” เหมือนในอดีต ซึ่งถูกปลูกฝังมาตั้งแต่สมัยอำมาตย์ครองเมือง
ผู้วิจารณ์มองว่า ในพรรคการเมือง ไม่ว่าตำแหน่งหน้าที่ใดก็ตาม ควรจะมีการกลั่นกรองจากคณะกรรมการพรรค เพราะประชาธิปไตยมาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน และเมื่อมีคนจำนวนหนึ่งเข้าไปรวมตัวกันในพรรค ก็ควรยึดตามแนวทางนั้น
เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งใหม่ ผู้ที่มีสิทธิ์มีเสียงในแต่ละเขตของพรรคอาจมีหลายคน จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าควรคัดสรรคจากการสอบคัดเลือก ประกอบกับชื่อเสียงของบุคคลท่านนั้น หรือไม่ก็ทำโพลจากคนในพรรคทั้งหมด หรือจากประชาชนว่าจะให้การสนับสนุนใครเพื่อจะได้ไม่เป็นที่ครหา และเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย
แต่หากจะดูจากทุนที่บางท่านให้การสนับสนุน ก็ต้องหาทางให้เสียงมากกว่าครึ่งของคนในพรรคยอมรับบุคคลผู้นั้น
ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้สมัคร ก็เป็นทีมช่วยเหลือและควรได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษากิติมศักดิ์หรือผู้ทรงเกียรติอะไรสักอย่างในทีมจะได้ไม่รู้สึกน้อยหน้าคนอื่น แต่ผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้สมัคร จะต้อง ยกย่องบุคคลเหล่านั้นทัดเทียมหน้ากัน
ส่วนการจะรับฟังความคิดเห็นพวกเขาหรือไม่นั้น มีวิธีการหลีกเลี่ยงหลายอย่าง เช่น นโยบายพรรคไม่ได้มาทางนี้ (หาทางประวิงเวลาปรึกษาคนจากแดนไกลเพื่อการตัดสินใจที่ดีที่สุด) หรืออาจใช้วิธีประมวลความคิดเห็นจากหลายๆ แห่ง และใช้เสียงข้างมากในทีมตัดสิน
ส่วนเก้าอี้ในสภามีแค่ 480 ที่นั่ง อาจมีบางคนตกเก้าอี้ จากใบเหลือง ใบแดงของ กกต. หรือถูกฟ้องร้อง ถูกโจมตีจากบุคคลหลายฝ่าย หรือเจอข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวหลอก จากสื่อ (สื่อหลัก ไม่ใช่สื่อของทักษิณ ไม่ได้มีนัยทางการเมือง) จนกระเด้งกระดอนตกเก้าอี้ ส.ส. และอาจมีการเลือกตั้งใหม่ ทีนี้ก็อยู่ที่ว่าทักษิณ พูดผิดคณะกรรมการบริหารพรรค และประชาชนจะลงมติเลือกใคร
ส่วนเก้าอี้สำคัญในกระทรวงต่างๆ ก็เช่นกัน หากสื่อขุดคุ้ยความไม่ชอบมาพากลในการบริหาร รมว. รมช.ก็อาจตกเก้าอี้ลงมาได้เหมือนกัน และเมื่อถึงเวลานั้นก็สุดแท้แต่...........(คัดสรรกันใหม่) ประวิงเวลาเพื่อหาวิธี ดึงงาน ดึงคน ดึงอำนาจ
แต่ทางที่ดีสิ่งที่ควรทำในตอนนี้ คือพาทักษิณกลับบ้านอย่างปลอดภัยให้ได้ก่อน แล้วเมื่อนั้นการเข้าถึงกลไกการทำงานต่างๆ จะง่ายขึ้น เพราะอยู่ใกล้ สามารถติดต่อประสานงานได้สะดวกในทุกๆ ฝ่าย
กรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ (ขงเบ้งแห่งกองทัพ) ท่านเป็นคนสุขุม นุ่มลึก ฉลาดล้ำและมีทีมงานน่าเชื่อถือ ผู้วิจารณ์มองว่า ขงเบ้งก็มีจุดอ่อน ดิฉันไม่รู้ว่าข้อมูลนี้จะไปถึงไหน คงพาดพิงไปมากกว่านี้ไม่ได้ จึงอยากให้ผู้ที่อยู่กับขงเบ้งมองให้รอบคอบ
ส่วนกรณีขุนทหาร ตท.10 ระแวง พล.อ.จิรเดช อดีต คมช. ที่อาจจะเป็นยุทธการม้าไม้เมืองทรอยมาใช้
ในเมื่อท่านไม่แน่ใจว่าเขาจะนำมายุทธวธีนี้มาใช้หรือเปล่า ทำไมไม่หาทางมอบหมายหน้าที่อันยิ่งใหญ่ และสำคัญ (อย่างคุม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) หรือไม่ก็งานด้านทหารแล้วส่งคนที่ไว้ใจได้ไปกำกับดูแลอีกที (แต่คนที่ส่งไปก็ควรจะมีวาจาเป็นอาวุธ อ่อนน้อม ถ่อมตน แต่ไม่อ่อนแอ รับฟัง แต่ไม่ทำตาม โดยใช้วิธีประวิงเวลา หาที่ปรึกษา)
ส่วนกรณีพันธมิตรฯ เตรียม 10 หรือท่านชวลิตและอดีต คมช. ที่เข้าร่วมงานในพรรค คงสามารถควบคุมดูแลได้ งานนี้งานช้าง และผู้ที่มีความสามารถทางการทหาร-ตำรวจ น่าจะทำได้ดีกว่าคนอื่น ที่สำคัญผู้ดำเนินการจะได้ไม่รู้นโยบายด้านอื่นๆ ของพรรค
กรณีคุณเฉลิม อยู่บำรุง บอกจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ วีดีโอลิงค์มาในเมืองไทยและกระจายไปตามจุดหาเสียงพร้อมกัน 50 จุด ดิฉันก็เห็นด้วยเพราะเพื่อไทยคือ สัญลักษณ์ของทักษิณ แต่ดิฉันกลัวว่าอาจมีปัญหากับ กกต. อย่างที่เป็นข่าว
และดีไม่ดี ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งอาจถูกเขี่ยตกเก้าอี้ทั้งที่ยังไม่ได้ทำงาน หรือไม่พรรคอาจถูกยุบก่อนที่จะเข้าไปบริหารบ้านเมือง เรื่องนี้ควรพิจารณาให้รอบคอบ ซึ่งผู้วิจารณ์ไม่สันทัดกฏหมาย และเรื่องราวต่างๆ ในพรรคการเมือง จึงมองอย่างคนนอกเหมือนคนทั่วๆ ไป และไม่สามารถเจาะลึกไปได้มากกว่านี้
ขอเตือนด้วยความหวังดี
“ขออย่าประมาท สื่อ และกระแสแห่งข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวหลอก ซึ่งเคยสร้างคน ทำลายคนมาแล้วทั้งในอดีตและปัจจบัน” อยู่ที่ว่าผู้ใช้จะมียุทธวิธีใด จะเลือกใช้เพื่อใคร เท่านั้นเอง
คติโบราณว่าไว้ “เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้” แต่หากจะมีใครทำให้เสือทั้งฝูงเข้ามาอยู่กรงเดียวกันได้ นั่นคือ อัจฉริยะ........................
แนวร่วมพันธมิตรฯ ยื่นหนังสือถึงฮุนเซนให้ถอนทหารออกจากพื้นที่ทับซ้อน
วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2552
"ทักษิณ" สั่งลูกพรรคเกาะติดพื้นที่เตรียมเลือกตั้งใหม่
มาร์คขอฮุนเซนคิดถึงความสัมพันธ์ 2 ชาติ มากกว่าแม้ว
อภิสิทธิ์ เตือน"ฮุนเซน คิดให้ดีอุ้ม"แม้ว"อย่าตกเป็นเบี้ยใคร พร้อมปรามอย่าทำให้กระทบความสัมพันธ์และผลประโยชน์ 2 ชาติ ย้ำนายกฯ เขมรเข้าใจผิดอย่างแรง มีกี่คนในโลกที่คิดว่าทักษิณเหมือนอองซานซูจี
ระบุหากคุยทวิภาคี ฝ่ายกัมพูชาต้องชี้แจงว่าจุดยืนเปลี่ยนไปหรือไม่
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. เมื่อเวลา 18.10 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมสุดยอดอาเซียน และทันทีเมื่อนายกฯ เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถาม ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้ถามทันทีถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะตั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ตกจำเลยคดีทุจริตและอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมของทางการไทย ให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ โดยระบุว่า คนไทยเป็นล้านๆ เสื้อแดงก็เป็นผู้ที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วทำไมข้าพเจ้า ซึ่งเป็นเพียงเพื่อน อยู่ห่างไกลจะไม่สามารถสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนกังวลว่า นายกฯ ฮุนเซนอาจได้รับข้อมูลไม่ถูกต้องในการประเมินสถานการณ์ที่เกี่ยวกับอดีต นายกฯ ที่มีความแตกต่างจากกรณีของนางอองซาน ผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า เพราะตนก็ไม่ทราบว่า จะมีกี่คนในโลกที่คิดว่า ทั้ง 2 กรณีเหมือนกัน ซึ่งการที่สมเด็จฮุนเซนเดินทางมาที่นี่ก็เพื่อประชุมในเรื่องสร้างความเป็น ปึกแผ่น และความเป็นเอกภาพของอาเซียน เราจึงไม่มีเวลาที่จะสนใจคนใดคนหนึ่งที่จะมาทำลายความสัมพันธ์อาเซียน ดังนั้นหน้าที่ของเราคือ จะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับสมเด็จฮุนเซนจากนั้นสื่อมวลชนได้ถามว่า โฆษกกระทรวงสารสนเทศของกัมพูชาระบุว่า ไม่สามารถส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณได้ เพราะเป็นคดีการเมือง แล้วรัฐบาลไทยจะทำอย่างไร
นายกฯ กล่าวว่า 1.กระบวนการต้องมีการพิสูจน์กัน โดยปกติแล้วก่อนที่จะมีการใช้ดุลพินิจไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร หรือศาลก็ตาม ก็ต้องรับฟังทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเป็นกระบวนการตามปกติ ฉะนั้นจะต้องมีกระบวนที่เปิดโอกาสให้ 2 ฝ่ายได้เสนอข้อเท็จจริงว่า ตกลงมันเป็นเรื่องการเมืองหรือการคอร์รัปชั่นหรืออะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องว่ากันตามกระบวนการ ตนคิดว่าพูดล่วงหน้าไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายตามกระบวนการที่ควรจะเป็นในการดำเนินการ ในเรื่องนี้ โดยหลักก็มีเท่านั้น
ผมคิดว่า คงมีความเข้าใจที่คาดเคลื่อน อย่างที่ผมเรียนว่า ไม่ทราบว่า มีกี่คนในโลกที่คิดว่า กรณีของอองซาน ซูจี เหมือนกับเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเข้าใจว่า เรื่องที่มีการหยิบยกขึ้นมา เช่นกรณี ของนายสม รังสี หัวหน้าพรรคฟุนซินเปก ก็ไม่ได้เป็นเรื่องของรัฐบาล ที่จะมาเปรียบเทียบต่อกรณีที่รัฐบาลของอีกประเทศหนึ่งจะไปเปิดโอกาสให้มีใคร จะใช้ประเทศเป็นฐานมาทำอะไรที่กระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีและความมั่นคง ประการที่ 1
นายอภิสิทธิ์ กล่าวนายกฯ กล่าวว่า ประการที่ 2 เรื่องที่ได้แสดงจุดยืนไปและเทียบเคียงเป็นเรื่องของมติอาเซียน ซึ่งสืบเนื่องกันมา เพราะฉะนั้นแปรียบเทียบกันไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นไม่ทราบว่าข้อมูลที่คาดเคลื่อนมาจากไหนอย่างไร แต่เราก็มีหน้าที่ที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
และคิดว่านายกฯ ฮุนเซนจะต้องคิดให้ดีว่า จะยืนยันการตัดสินใจที่จะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์และผลประโยชน์ร่วมกันของ คนทั้ง 2 ชาติเพื่ออะไร คือผมก็เห็นว่า ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความอาวุโส อย่าไปเป็นเหยื่อและเป็นเบี้ยให้ใครเลย นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า ในการที่จะพบกันในระดับทวิภาคี จะมีการสอบถามเรื่องนี้ที่นายกฯ ระบุว่ามีความคาดเคลื่อนหรือไม่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ผมคิดว่า ท่านอาจจะต้องชี้แจงผมก่อนมั๊งครับ เมื่อถามต่อว่า หมายความนายกฯ จะไม่เป็นคนเริ่มพูดเรื่องนี้ นายกฯ กล่าวว่า "ผมไม่มีอะไรต้องชี้แจงเท่าไร ผมคิดว่า น่าตั้งคำถามว่า สิ่งที่เคยแสดงจุดยืนโดยตลอดในการพบปะกัน ถ้ามันเปลี่ยนแปลงไปก็คงต้องชี้แจงทางเรา ผมได้แต่พูดสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง เผื่อท่านจะมีความเข้าใจที่ดีขึ้น
"ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คำชี้แจงของฮุนเซนยังจะฟังได้หรือไม่ เพราะคำพูดเปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนเดิมตลอดเวลา นายกฯ กล่าวว่า ความจริงตนไม่แน่ใจว่า จุดยืนนี้จะเปลี่ยนอีกหรือไม่ แต่ตนก็ได้แสดงจุดยืนของตนไปแล้วเมื่อถามว่า แต่การมาพูดเรื่องนี้ในประเทศไทย นายกฯ ได้ตัดบทว่า ตนได้พูดไปแล้วเมื่อกี้นี้ ต้องถามว่า การที่ท่านเดินทางมาประชุมเพื่ออะไร แล้วสิ่งที่พูดและแสดงออกมันสอดคล้องกับวัตถุในการเดินทางมาหรือไม่
เมื่อถามต่อว่า นายกฯ คิดว่าการพูดครั้งนี้จะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ นิ่งก่อนกล่าวว่า วันนี้ก็ต้องกล่าวว่า สิ่งที่สะท้อนออกมา มันคือความเข้าใจคาดเคลื่อนอย่างแรง โดยประเทศไทยก็เพียงแต่บอกว่า ขอให้คิดให้ดี เพราะว่า เรายังยืนยันว่า ความสัมพันธ์และผลประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศน่าจะสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
เมื่อผู้สื่อข่าวต่างชาติถามว่า กังวลแค่ไหนที่ พ.ต.ท.ทักษิณใช้ประเทศเพื่อนบ้านโจมตีประเทศไทย นายกฯ กล่าวว่า เขาพยายามดำเนินการอย่างนี้มานานแล้ว ในประเทศที่ห่างไกล แต่เขาก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเหมือนคนอื่นเขาต้องยอมรับในสิ่งนี้เมื่อถามว่า เหมือนประเทศไทยไม่มีความปรองดองด้านเศรษฐกิจ และการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรามีพัฒนาการทางการเมือง ส่วนเรื่องเศรษฐกิจก็คงต้องใช้เวลา ส่วนการที่จะไม่ยึดกฎหมายก็ไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง
ข่าวจาก Prachatai Webboard
บทวิเคราะห์
จากข่าวคงมีคนสงสัยไม่น้อยว่า ในฐานะเพื่อนที่มีความรักและจริงใจให้เพื่อน "สมเด็จฮุนเซน แห่งกัมพูชา" ทำผิดกระนั้นหรือ
แล้วเพระเหตุใดรัฐบาลถึงพยายามโยงเรื่องอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร และสมเด็จฮุนเซน มาเป็นเรื่องใหญ่จนกลบข่าวการประชุมอาเซียนที่กำลังมีขึ้น
หากจะมองในอีกแง่หนึ่ง คงมีคนคิดไปว่า มาร์คเจตนาใช้เวทีอาเซียน หาทางตัดความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรและสมเด็จฮุนเซนใช่หรือไม่
"ทักษิณ" เอาใจแฟนคลับ ยิง SMS ส่งข่าวต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทวิตโดยระบุว่า จะส่งข่าวสารจากต่างประเทศให้กับแฟนคลับโดยตรงผ่านระบบเอสเอ็มเอส พร้อมกับเตรียมเปิดตัว twitter อันใหม่ที่จะพูดคุยแต่เฉพาะเรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น ในวันที่ 1 พ.ย.นี้
วันที่ 1 พ.ย. นี้ เช่นกันผู้ที่ต้องการรับข่าวสารที่เป็นสาระจากต่างประเทศโดยตรงจากผม โดยระบบเอสเอ็มเอสจากมือถือทุกระบบฟรี เตรียมสมัครเป็นสมาชิกได้ครับ
วันที่ 1 พ.ย.นี้ จะเริ่มมีการทดลองออกอากาศทีวีช่องโอทอปและช่องการศึกษาตามที่ได้บอกไว้เมื่อ 2-3 เดือนแล้วครับ โปรดติดตามได้ใน thaksinlive ครับ
ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทวิตข้อความผ่านเว็บไซต์ Twitter.com เพื่อตอบคำถามแฟนคลับถึงกรณีที่สมเด็จฯ ฮุนเซ็น พร้อมที่จะต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณและสร้างบ้านให้ว่า
เสื้อแดงยื่นหนังสือถึงผู้นำอาเซียน จี้ 3 องคมนตรีออก
"อริสมันต์"เตรียมบินเดินสายยื่นหนังสือผู้นำอาเซียน นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวภายหลังยื่นยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงผู้นำ 6 ชาติคู่เจรจา อาเซียน และเลขาธิการอาเซียน ผ่านทางนายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน และนายบาลา คูมา พาลาเนียปัน (BALA KUMAN PALANIAPAN) เลขานุการเลขาธิการอาเซียน ว่า มั่นใจว่าจะถึงมือผู้นำอาเซียนทั้งหมด และในเร็ว ๆ นี้จะมีโครงการไปยื่นหนังสือผู้นำประเทศอาเซียนที่ต่างประเทศ เพื่ออธิบายความเป็นจริงของประชาธิปไตยไทย
"ฮุนเซน" ยันไม่ส่งตัว "แม้ว" ให้ไทย
"ฮุนเซน"ถึงไทยแล้ว ยันไม่ส่งตัว"แม้ว"ให้ไทยอ้างรัฐประหารปี49ไม่ถูกต้อง สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวภายหลังเดินทางถึงประเทศไทย เพื่อร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่หัวหิน ว่า ยืนยันจะไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ประเทศไทยหากพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ากัมพูชา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 23 ตุลาคม โดยอ้าง แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชายืนยันว่า ตามสนธิสัญญาระหว่างไทยกับกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาสามารถปฏิเสธคำร้องขอให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับให้ประเทศไทยได้ หากอดีตผู้นำไทย ขอลี้ภัยอยู่ในกัมพูชา เนื่องจากว่าถือเป็นความผิดทางการเมืองและไม่เข้าข่ายการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงอาศัยอยู่ในต่างประเทศมาตั้งแต่เดือน ส.ค.ปีที่แล้วเพื่อไม่ต้องถูกดำเนินคดีจำคุก 2 ปีในข้อหาทุจริตคอรัปชั่น
40 สว.ขู่ฟ้องยูเอ็น อุ้มโจร
ส่วนที่สมเด็จฮุนเซนมองว่าทักษิณ ชินวัตร ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง ก็ไม่แปลก เพราะคนไทยจำนวนหนึ่งก็มองเหมือนนายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้มีข่าวสารเผยแพร่ข่าวออกมาให้เห็นอยู่เนืองๆ
ปชป.อัดฮุนเซนไร้มารยาท
ขอเตือนด้วยความเคารพ
ชชป. คงลืมไปแล้วว่าในฐานะเพื่อน สมเด็จฮุนเซนย่อมมีความปรารถนาดีต่อเพื่อน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ และหาก ปชป. คิดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเสียมารยาท คนมีคนจำนวนไม่น้อยมองว่า เป็นความคิดของพวกเผด็จการจิตใจคับแคบ ต้องการให้คนอื่นทำตาม หรือคิดตามความต้องการของตัวเองหรือไม่
ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นคนไทยคนหนึ่ง อยากเห็นภาพลักษณ์ของพรรคที่เป็นแกนนำรัฐบาลดีงามและเป็นประชาธิปไตยในสายตาประชาชน จึงออกมาเตือนด้วยความปรารถนาดี