ซัด"ทักษิณ"ใช้ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศไทย หวังโค่นรัฐบาล พันธมิตรจวก"บิ๊กจิ๋ว" ชักศึกเข้าบ้าน จี้รัฐบาลออกแถลงการณ์ตอบโต้ พท.ได้ทีเรียกร้องให้ปลด"กษิต" เปิดทางให้"พล.อ.ชวลิตไช่วยงานด้านต่างประเทศ
นายกฯไม่มีโอกาสคุย"ฮุน เซน"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม กรณีสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ปฏิเสธที่จะส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนให้ประเทศไทย หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปลี้ภัยในประเทศกัมพูชา ว่าไม่ค่อยมีโอกาสได้คุยกับสมเด็จฯฮุน เซน มีแต่สมเด็จฯฮุน เซน มาพูดกับตนแค่นิดเดียว คือบอกว่าจะสนับสนุนให้เดินหน้ากลไกตามข้อริเริ่มเชียงใหม่ เรื่องที่เป็นข่าวไม่อาจยกมาคุยในการประชุมครั้งนี้ได้ "จุดยืนของผมก็ยังเหมือนกับที่เคยแถลงไปแล้ว" นายอภิสิทธิ์กล่าว
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ส.ส.สัดส่วน โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงว่า หลายฝ่ายสงสัยว่าสมเด็จฯฮุน เซน และ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะรู้กันในการดำเนินการ เพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนด้วย
นอกจากนี้การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) เคยระบุได้นำคลิปการปราศรัยบนเวทีพันธมิตรของนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ด่าสมเด็จฯฮุน เซน ไปให้ลูกสาวของสมเด็จฯฮุน เซน รวมถึงการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้าพบสมเด็จฯฮุน เซน ก็ถือว่าสอดคล้องกับความน่าสงสัยเรื่องการเอาประโยชน์ของประเทศไปแลกประโยชน์ส่วนตัวของรัฐบาลในอดีต
ซึ่งเป็นที่มาของความเข้าใจผิดระหว่างประเทศ ถือเป็นการเอาขัดแย้งด้านความมั่นคงเข้าสู่ประเทศ หากผู้ดำเนินการไม่เห็นแก่บ้านเมือง ก็ขอให้ฟังคำเตือนของผู้ใหญ่ที่ระบุว่าระวังจะทรยศต่อชาติ ปชป.วอนคนไทยปกป้องศักดิ์ศรี
"หาก พ.ต.ท.ทักษิณ มั่นใจว่าคดีที่เกิดขึ้นเป็นความผิดทางการเมือง เหตุใดจึงโดนถอนวีซ่าจากหลายประเทศ และไม่ขอลี้ภัยทางการเมืองที่กฎบัตรสหประชาชาติ เพราะความจริงคดีดังกล่าวเป็นคดีอาญาแผ่นดิน จึงไม่สามารถขอลี้ภัยได้"
นพ.บุรณัชย์กล่าว และว่า พรรควิเคราะห์ว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการยกระดับ จากยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ มาเป็นการยืมมือประเทศเพื่อนบ้านกดดันประเทศไทยโดยตรง แต่โชคดีที่ประชาคมอาเซียน ปฏิเสธไม่ยุ่งกับกิจการประเทศอื่น
ทั้งนี้เชื่อว่า จะมีการเดินสายต่อเนื่องกดดันแบบนี้ เพื่อให้สอดรับการประชุมเอเปค และการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ จึงขอให้ประชาชนรู้เท่าทันออกมาปกป้องเกียรติภูมิศักดิ์ศรี ปกป้องกระบวนการยุติธรรมไม่ให้โดนล่วงล้ำอธิปไตยด้วยวิธีการดังกล่าว
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง กรรมการบริหาร ปชป. กล่าวว่า ขอให้คนไทยใช้เหตุผลในการพิจารณาเพื่อให้รู้เท่าทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่การที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงชื่นชมนายกฯต่างประเทศ และโจมตีผู้นำของตัวเอง ก็จะมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้นขอให้แกนนำเสื้อแดงไปอยู่กัมพูชา จะได้ไม่มีปัญหา
ทำข้อมูลแฉ"แม้ว-ผู้นำเขมร"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมโฆษก ปชป. ได้เตรียมจัดทำข้อมูลเพื่อชี้แจงให้ประชาชนรับทราบถึงความเชื่อมโยงระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับสมเด็จฯฮุนเซน ในการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน จนทำให้สมเด็จฯฮุน เซน ต้องออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวกับไทย ซึ่งจะมีการไล่เรียงถึงพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่เป็นรัฐบาล ที่ได้สัมปทานโทรศัพท์มือถือในกัมพูชา ต่อเนื่องมาจนถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อนุมัติให้ความเห็นชอบให้มีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
นอกจากนี้ที่น่าจับตามองที่สุดคือ ผลประโยชน์ในการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติในกัมพูชา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่เปิดเผยในหนังสือชี้ชวน และรายงานประจำปีของตลาดหลักทรัพย์ที่มีการบ่งบอกถึงการขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้กับกลุ่มเทมาเส็ก ซึ่งจะทำให้เทมาเส็ก ได้ดูแลผลประโยชน์ทุกรายการที่บริษัทชินคอร์ปฯ ได้รับจากกัมพูชาด้วย ซึ่งมีระยะเวลาสัมปทานถึง 99 ปี
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกส่วนตัวหัวหน้า ปชป.กล่าวว่า ท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ออกมาเชิดชูสมเด็จฯฮุน เซน เหมือนเทพเจ้าประจำตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เข้าใจว่าเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณกำลังเดินแผนยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศไทย โดยใช้ 3 ยุทธวิธี คือ 1.การให้นานาชาติปิดล้อม ต่อต้านประเทศไทย 2.การต่อรองกับสถาบัน 3.โค่นล้มรัฐบาล ปชป.
"สุริยะใส" ให้ "ชวลิต" พิสูจน์ 3 ข้อ
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตร ในฐานะเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) และนายสำราญ รอดเพชร โฆษก ก.ม.ม. ร่วมแถลงถึงกรณีสถานการณ์ทางการเมืองและสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน โดยนายสุริยะใสกล่าวว่า บทบาทของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี สมาชิก พท.ไปพบ สมเด็จฯฮุน เซน เป็นการสารภาพหรือเปลือยกายล่อนจ้อนว่า ภารกิจครั้งนี้ คงเป็นภารกิจเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ
"ถ้า พล.อ.ชวลิตต้องการพิสูจน์ตัวเองหรือสร้างความน่าเชื่อถือ จะต้องพิสูจน์ตัวเอง 3 ประการ จึงจะมีเครดิตและมีน้ำหนักพอที่จะสามารถพูดคุยกับคนนั้นคนนี้ได้ คือ
1.ถ้า พล.อ.ชวลิต หวังดีกับประเทศชาติจริง จะต้องใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือความสัมพันธ์ที่ดีที่มีต่อสมเด็จฮุน เซน หาทางคลี่คลายข้อพิพากษ์กรณีปราสาทเขาพระวิหาร
2.พล.อ.ชวลิต ต้องหว่านล้อมเจรจาและชักนำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดโจมตีกระบวนการยุติธรรม เคารพคำพิพากษาของศาล และกลับมารับผิด และ
3.พล.อ.ชวลิต จะต้องป้องปรามและห้ามปรามการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และคนใน พท."
นายสุริยะใสกล่าว และว่า วันที่ 27 ตุลาคมนี้ เวลา 12.00 น. ที่บ้านพระอาทิตย์ ทั้ง 5 แกนนำพันธมิตร จะมีการประชุมเพื่อแถลงจุดยืนและข้อเท็จจริงทั้งหมดถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต จะมีการติดต่อเข้าพูดคุยกับทั้ง 5 แกนนำพันธมิตร
จี้"อภิสิทธิ์"ตอบโต้กัมพูชา
นายสุริยะใสกล่าวว่า บทบาทของสมเด็จฮุน เซน ที่มีต่อเวทีอาเซียน สะท้อนถึงความล้มเหลวทางด้านนโยบายการต่างประเทศของรัฐบาลชุดนี้ เรื่องนี้ควรจะต้องมีการออกแถลงการณ์เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของคนไทย ซึ่งคำพูดของสมเด็จฮุน เซน เป็นการท้าทายกระบวนการยุติธรรมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ผิด ดังนั้นรัฐบาลจะต้องออกแถลงการณ์เพื่อยืนยันกับประชาคมโลกว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยน่าเชื่อถือ
นายสำราญกล่าวว่า กรณีที่ พล.อ.ชวลิต เดินทางไปเข้าพบสมเด็จฮุน เซน จนทำให้ผู้นำกัมพูชาได้แสดงท่าทีเอื้อเฟื้อถึงขนาดจะสร้างบ้านพักให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นับเป็นบทบาทที่ซ้ำเติมสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งไม่น่าจะเป็นบทบาทของคนที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 22 ของไทย เพราะแทนที่จะแปรศักยภาพความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้นำกัมพูชาเพื่อบ้านเมืองกลับไปแสดงบทบาทในลักษณะชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน
ปลด"กษิต"เปิดทางให้"ชวลิต"
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษก พท. กล่าวว่า คำให้สัมภาษณ์ของสมเด็จฮุน เซนกรณีไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ผิดพลาด นายกรัฐมนตรีควรใช้โอกาสนี้ปรับเปลี่ยนนโยบายด้านต่างประเทศ และปรับนายษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกจากตำแหน่ง โดยเป็นการตัดอวัยวะที่มีปัญหาทิ้งไปเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ แล้วเปิดโอกาสให้ พล.อ.ชวลิต ในฐานะตัวแทนของ พท. ที่มีความสัมพันธ์กับผู้นำประเทศต่างๆ โดยเฉพาะกัมพูชา พม่า และมาเลเซีย เป็นอย่างดีเข้าไปช่วยแก้ปัญหาในฐานะผู้นำที่ไปเชื่อมความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดย พท.ไม่ได้ขอให้แต่งตั้ง พล.อ.ชวลิต เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แต่ขอให้เปิดโอกาสให้ พล.อ.ชวลิต ได้ไปช่วยด้านต่างประเทศเท่านั้น
ให้นายกฯตบปาก2โฆษก
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า การที่โฆษก ปชป.กล่าวหาว่าทีมงานโฆษก พท.อยู่เบื้องหลังการออกมาแสดงจุดยืนไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ของโฆษกรัฐบาลกัมพูชานั้น ขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิง เพราะพรรครู้ดีว่าประเทศเพื่อนบ้านมีอธิปไตยและสามารถแสดงจุดยืนของตัวเองได้
"นพ.บุรณัชย์ ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาตกต่ำและมีปัญหา เป็นการพูดแบบปากพาจน เนื่องจากเป็นการดิสเครดิตประเทศเพื่อนบ้านและใส่ร้ายป้ายสีพรรคเพื่อไทย เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของพรรคตัวเอง เป็นการกระทำที่ขาดวุฒิภาวะ ในลักษณะเดียวของนายเทพไท ที่พูดแล้วทำให้กัมพูชาสั่งเพิ่มทหารบริเวณเขาพระวิหาร หากนายอภิสิทธิ์ เป็นผู้นำที่เข้าใจในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ จะต้องเรียกนายเทพไท และนพ.บุรณัชย์ มาตบปาก เพราะพูดแล้วทำให้นายกรัฐมนตรีไทยเสียรังวัดอย่างเห็นได้ชัด" นายพร้อมพงศ์กล่าว
สมัชชาฯนัดชุมนุมประณาม
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการเครือข่ายสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เครือข่ายฯจะระดมประชาชนมารวมใจปกป้องบ้านเมือง โดยจะประท้วงที่หน้าสถานทูตกัมพูชา ประจำเทศไทยในเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม เพื่ออ่านแถลงการณ์ประณามสมเด็จฮุน เซน และ พล.อ.ชวลิต โดย พล.อ.ชวลิตเป็นผู้เขี่ยลูกก่อน จึงเปรียบเสมือน "พระยาจักรีที่ชักศึกเข้าบ้าน" กรณีนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องมีท่าทีต่อพล.อ.ชวลิต ในฐานะสมาชิก พท.ว่ามีการกระทำที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่
"ผู้นำไทยต้องเชิญสมเด็จฮุน เซน ออกนอกประเทศทันทีที่มาพูดกล่าวหากระบวนการยุติธรรมของไทยแบบนี้ แต่นายกฯกลับแสดงท่าทีน้อยเกินไป และขณะนี้สมเด็จฮุน เซน รุกคืบในพื้นที่ทับซ้อนชายแดนไทย-กัมพูชาเข้ามาแล้ว หากไม่มีท่าทีใดๆ ก็ต้องใช้กองทัพเข้าประชิดพรหมแดนชายแดนดังกล่าว และนายกฯไทยมาอ้างมารยาทการทูตหรืออ้างสุภาพบุรุษไม่ได้ ต้องใจนักเลง แต่นายอภิสิทธิ์กลับอ่อนแอ ใจไม่เข้มแข็งพอต่อการดำเนินท่าทีต่อกัมพูชมา ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ไม่เหมาะสมความเป็นผู้นำในวิกฤตความขัดแย้งได้" นายไชยวัฒน์กล่าว
ข่าวจาก Matichon Online
บทวิเคราะห์จากมือใหม่
มีคนไทยจำนวนมากตั้งตาคอยข้อมูลจากพรรค ปชป.ที่เตรียมออกมาแฉความสัมพันธ์ระหว่างแม้ว-ฮุนเซน อย่างใจจดใจจ่อ หากมีข้อมูลหลักฐานจริง ประชาชนขอวอนว่าอย่าช้า รีบนำออกมาเปิดเผยโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นอาจมีหลายฝ่ายมองว่าเป็นการออกมาพูดผ่านสื่อเพื่อต้องการใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายตรงข้าม
และหากทักษิณใช้ยุทธศาสตร์ "โลกล้อมประเทศเพื่อหวังโค่นล้มรัฐบาล" หากรัฐบาล ปชป. แน่ใจว่าทำถูกต้องและมีหลักฐานชัดเจน จะกลัวไปใยกับสายตาประชาคมโลก และที่สำคัญสื่อในยุคปัจจุบันก้าวล้ำทันสมัย มีหรือนานาชาติจะไม่ล่วงรู้ข่าวสารจากประเทศไทย
กรณีพันธมิตรฯ จวกบิ๊กจิ๋วชักศึกเข้าบ้าน คงมีคนไทยจำนวนไม่น้อยอยากถามว่าแล้วการกระทำของพันธมิตรฯ เมื่อครั้งอดีต เขาเรียกว่า "ปล้นชาติ เพื่อส่งให้นายอภิสิทธิ์และพรรคพวกกินรวบประเทศไทย" ใช่หรือไม่
กรณีสมเด็จฯ ฮุนเซน แห่งกัมพูชาปฏิเสธที่จะส่งตัวทักษิณเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ในฐานะเพื่อนที่มีความจริงใจต่อกัน หลายคนอาจมองว่านั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง "เพื่อนย่อมไม่ทรยศเพื่อน" และไม่ทำตัวเป็นงูเห่ายามเพื่อนตกทุกข์ได้ยาก และนั่นคือ "มิตรแท้" สิ่งนี้ต่างหากที่คนเสื้อแดงให้การยกย่อง และบางทีแม้แต่ประชาคมโลกอาจยกย่องสรรเสริญในความเป็นเพื่อนแท้ด้วยเช่นกัน
ส่วนกรณีที่ น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ออกมาวิเคราะห์ว่า พ.ต.ททักษิณและสมเด็จฯ ฮุนเซนน่าจะรู้กันในการดำเนินการเพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลก็เป็นการคาดการณ์ นั่นคือ "การเดา" โดยไม่มีข้อมูลหลักฐานชี้ชัด
กรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นำคลิปการปราศรัยของนายกษิต ภิรมย์ ที่เคยวิพากษ์วิจารณ์สมเด็จฯ ฮุนเซนบนเวทีพันธมิตรฯ ไปให้ลูกสาวสมเด็จฯฮุนเซนดู เรื่องนี้ก็ไม่แปลกเพราะนายกษิต ภิรมย์ทำเช่นนั้นจริงๆ
ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์กรณี พล.อ.ชวลิตไปเยือนกัมพูชาว่าประจวบเหมาะกับเหตุการณ์ ว่าน่าจะมีการเอาผลประโยชน์ของประเทศไปแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัวของรัฐบาลในอดีต นั่นก็เป็นการคาดเดา ซึ่งปราศจากข้อมูลหลักฐานยืนยัน แต่หากรัฐบาลมีหลักฐานชัดเจน ก็ควรนำออกมาเปิดเผยให้คนไทยและต่างชาติรู้ทั่วกัน
กรณีนายบุรณัชย์และนายสุริยะใสพูดทำนองขอร้องประชาชนให้ออกมาปกป้องเกียรติภูมิและศักด์ศรีของขบวนการยุติธรรมและประเทศชาติ คงมีคนอีกจำนวนไม่น้อย อยากทราบว่าศักดิ์ศีรีของใคร นายกษิต ภิรมณ์ พรรคประชาธิปัตย์ หรือเพื่อพันธมิตรฯ กันแน่
กรณีที่มีคนออกมาพูดถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองออกมาเตือน "ระวังจะเป็นการทรยศชาติ" คงมีคนสงสัยไม่น้อยว่า กรณีเพื่อนช่วยเพื่อนของสมเด็จฯ ฮุนเซน กรณี พล.อ.ชวลิต ไปเยือนกัมพูชา ทรยศชาติตรงไหน แล้วการปิดล้อมรัฐสภา บุกยึดทำเนียบรัฐบาล ปิดสนามบิน เขาเรียกว่า "ทำเพื่อชาติ" อย่างนั้นหรือ
กรณีที่พรรค ปชป.เตรียมไม้เด็ด แฉ พ.ต.ท. ทักษิณคนไทยตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ ขอให้เร่งดำเนินการโดยด่วน หากชักช้า อาจถูกพ.ต.ท.ทักษิณและสมเด็จฯฮุนเซน นำไปเป็นประเด็นฟ้องต่างชาติว่าถูกรัฐบาลไทยใส่ร้ายป้ายสีให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จะส่งผลให้รัฐบาลอภิสิทธิ์อับอายขายหน้าชาวโลกที่กุข่าวโดยไม่มีมูลมาเปิดเผย เท่ากับเจตนาหลอกลวงประชาชนโดยแท้
ส่วนนายสุริยะใส ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ ชวลิต ยงใจยุทธ คงมีคนหลายคนตั้งคำถามว่า สุริยะใส คือใคร มีสิทธิ์อะไรไปสั่ง พล.อ ชวลิต ในขณะที่ตัวเองถูกประชาคมโลกและคนไทยนับล้านมองว่าเป็น "ผู้ก่อการร้าย" ทำให้ประเทศชาติเสียหายนับแสนล้าน และมีส่วนอุ้มสมนายอภิสิทธิ์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
และเมื่อสมหวังได้รัฐบาลภายใต้การนำของ ปชป. รัฐบาลชุดนี้จึงทำทุกวิถีทางเพื่อตอบแทนบุญคุณ กระทั่งผู้ก่อการร้ายกำลังจะกลายเป็นผู้การการดีในปัจจุบัน ผิดกับสายตาชาวโลกที่นับวันรอว่าเมื่อไหร่คดีปิดสนามบิน บุกยึดทำเนียบรัฐบาล ปิดล้อมรัฐสภาจะได้รับการสะสาง
ส่วนกรณีที่นายชัยวัฒน์ สินสุวงศ์ออกมาประกาศว่าจะระดมประชาชนมารวมใจป้องกันบ้านเมือง อยากถามว่าที่ทำแบบนั้น เป็นการปกป้องบ้านเมือง หรือเผาบ้านเผาเมืองกันแน่ เพราะหากประเทศเพื่อนบ้านเจอท่าทีแข็งกร้าวของประชาชนชาวไทยจนเข็ดขยาดไม่กล้ามาลงทุนและพากันตัดส้มพันธ์ ประเทศไทยซึ่งพึ่งพาการค้าขายและการส่งออกเป็นส่วนใหญ่ จะเกิดอะไรขึ้น?
ส่วนที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ไปเยือนกัมพูชาในฐานะมิตร แล้วนายชัยวัฒน์นำมาประติดประต่อเรื่องราวโดยปราศจากข้อมูลหลักฐาน ซ้ำยังว่า พล.อ. ชวลิตเปรียบเสมือน "พระยาจักรีชักศึกเข้าบ้าน" คงมีคนไทยจำนวนไม่น้อยอยากถามว่า แล้วผู้ที่บุกยึดทำเนียบ ปิดล้อมสนามบิน ล้อมรัฐสภา ควรเปรียบเทียบกับอะไร แล้วการที่รัฐบาลนำผู้ก่อการร้ายในสายตาชาวโลกมาเป็นรัฐมนตรี...หมายความว่าอย่างไร?
อาจเป็นเพราะสาเหตุนี้ด้วยหรือไม่ ที่ทำให้รัฐบาลอภิสิทธิ์เสื่อมในสายตาคนไทย และประชาคมโลก เนื่องจากการวางตำแหน่งงานสำคัญผิดพลาด เพราะเมื่อนายกษิต ภิรมย์ เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ งานหลักก็คือการไล่ล่าทักษิณอย่างที่รู้ๆ กันอยู่
แต่เมื่อตัวนายกษิต ภิรมย์ถูกคนไทยและต่างชาติตั้งข้อสงสัย โดยเฉพาะกัมพูชาซึ่งนั่นเป็นเพราะปากพาจนของนายกษิตไปวิจารณ์สมเด็จฯ ฮุนเซน กลับมีผู้พยายามเชื่อมโยงให้ประชาชนออกมาต่อสู่เพื่อประเทศชาติ หากคนไทยจะฉุกคิดสักนิด ว่าตกลงเขาเรียกร้องให้สู้เพื่อชาติ หรือสู้เพื่อนคนของพันธมิตรฯ กันแน่ ก็จะดีไม่น้อย
ขอให้ผู้ที่ได้รับข่าวสารพิจาณาให้รอบคอบ ว่าข่าวสารที่ปราศจากข้อมูลหลักฐานชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนออกมาให้ข่าวก็แล้วแต่ ควรพิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ไม่ใช่เชื่อเพราะคนๆ นั้นพูดแล้วเป็นข่าว หรือเชื่อเพราะเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น