นายกฯ กัมพูชาสร้างบ้านหรูไว้รอรับทักษิณในกรุงพนมเปญ เผยสงสารเพื่อนลำบาก เตรียมส่งพล.อ.เตียบันห์ ประสานงานพรรคเพื่อไทย ชี้ปัญหาชายแดนควรถอนทหาร ปัดให้สัมปทานในพื้นที่ทับซ้อน...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (21 ต.ค.) พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตรอง ผบ.ทบ. พล.ท.พิรัช สวามิวัสดุ์และพล.ต.ศรชัย มนตริวัต เดินทางไปประเทศกัมพูชา โดยมีพล.อ.เตียบันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ให้การต้อนรับ จากนั้น คณะของพล.อ.ชวลิต เดินทางเข้าพบสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่บ้านพักรับรองในกรุงพนมเปญ เพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวันและหารือถึงสถานการณ์การเมืองทั่วไป
จากนั้น สมเด็จฮุนเซน ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อตนรู้ว่าพล.อ.ชวลิตเข้ามาเป็นจึงเชิญมากัมพูชา เพราะเคยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีความสัมพันธ์ที่ดี โดยเฉพาะพรรคประชาชนกัมพูชากับพรรคเพื่อไทย ซึ่งในอดีตเป็นพรรคไทยรักไทย
ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของพรรคการเมืองทั้งสองจึงได้แต่งตั้งพล.อ.เตียบันห์ เป็นหัวหน้าคณะประสานงานพรรคการเมืองทั้งสอง โดยพรรคเพื่อไทยจะเสนอตั้งพล.อ.วิชิต ยาทิพย์ เป็นหัวหน้าคณะประสานงานของพรรคเพื่อไทย “ผมมีความสัมพันธ์กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะเพื่อน มีความรักความผูกพันกันมาตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักธุรกิจจนกระทั่งลงมาเล่นการเมืองเป็นนายกรัฐมนตรี ความสัมพันธ์ของทั้งสองยังผูกพันธ์เหมือนเดิมทุกอย่าง ในฐานะเพื่อนมีความรู้สึกว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการเมือง ประสบเคราะห์กรรม แต่ผมกับทักษิณก็ยังเป็นเพื่อนกัน ในฐานะที่ทำประโยชน์ให้ประเทศมานาน แต่ทำไมวันนี้ถึงไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ผมมีความรู้สึกเจ็บปวดในเรื่องนี้ ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนไทย ผมและคนในครอบครัวได้รับรู้เรื่องนี้ ภรรยาผมถึงกับร้องไห้ และมีความเห็นที่จะสร้างบ้านให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาอยู่ในกรุงพนมเปญ ในฐานะเพื่อน อย่างมีเกียรติ” นายกฯ กัมพูชา กล่าว
สมเด็จฮุนเซ็น กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องท่าทีของรัฐบาลกัมพูชา เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ตนมีความรักในสันติภาพถึงประเทศเพื่อนบ้าน จึงอยากขอให้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่มีปัญหา เพราะไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้า และขอให้คณะกรรมการประสานงานชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (เจบีซี) เป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะในพื้นที่ทับซ้อน ตนเห็นว่าสามารถที่จะใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ทั้งสองประเทศ ส่วนเรื่องที่รัฐบาลกัมพูชาให้บริษัทต่างชาติสำรวจทรัพยากรในทะเลนั้น
ขอยืนยันว่าเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด และทางกัมพูชาได้เสนอรัฐบาลไทยและรออยู่เพื่อตกลง จะขุดหาผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบ ด้านพล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ยังไม่เคยได้ยินใครพูดที่มีความจริงใจระหว่างเพื่อนที่มีต่อเพื่อน ความห่วงใยเพื่อนเมื่อประสบทุกข์ ซึ่งตนจะนำความปรารถนาดีที่สมเด็จฮุนเซนแสดงออกวันนี้แจ้งให้พ.ต.ท.ทักษิณได้รับทราบ
ทั้งนี้สมเด็จฮุนเซนยังแสดงความเห็นว่า ปัญหาการเมืองไทยควรจะมีทางออกโดยเฉพาะการอโหสิกรรมให้กันและหัวหน้าเข้าหากันนำมาสู่การพัฒนาประเทศประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ในระหว่างเดินทางมาที่สนามบินก่อนกลับประเทศไทย สมเด็จฮุนเซนยังได้โทรศัพท์มาย้ำกับตนว่า ขอให้พี่น้องกลุ่มคนเสื้อแดงทราบว่า สมเด็จฮุนเซนได้สร้างบ้านพักหลังใหญ่สวยงามให้กับพ.ต.ท.ทักษิณในกรุงพนมเปญ แทนที่จะไปอยู่ที่ดูไบ โดยฝากบอกไปว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะมาอยู่เมื่อไหร่ก็ได้ ยินดีต้อนรับ
มีรายงานว่า ก่อนพล.อ.ชวลิตจะขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย พ.ต.ท.ทักษิณได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามพล.อ.ชวลิต ถึงการเข้าพบสมเด็จฮุนเซน โดยพล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี นายกฯฮุนเซ็นมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีไม่เปลี่ยนแปลง
ยังฝากบอกพ.ต.ท.ทักษิณ ให้เดินทางมาอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เพราะได้สร้างบ้านหลังใหญ่สวยหรูไว้รอต้อนรับ ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวทางโทรศัพท์ว่า อยากให้พล.อ.ชวลิตเดินทางไปประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศพม่าและ ลงไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยพล.อ.ชวลิตกล่าวตอบกลับว่า ตนจะเดินทางลงไปในพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเร็วๆ นี้ โดยไม่สนใจว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่ขอทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ
ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานวันนี้ว่า สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้การต้อนรับพลเอกชวลิต อดีตนายกรัฐมนตรีและปัจจุบันเป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้านเพื่อไทย ที่เดินทางเข้าพบหารือเป็นการส่วนตัวที่จังหวัดกันดาล ห่างกรุงพนมเปญไปทางใต้ราว 15 กิโลเมตร
ระหว่างการหารือ สมเด็จฮุน เซน ฝากคำเชิญผ่านพล.อ.ชวลิต ถึงอดีตนายกฯทักษิณ เพื่อนตลอดกาลให้เดินทางมาเยือนตนได้ทุกเมื่อ หากต้องการ โดยพร้อมจะจัดหาที่พักให้
ข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์
ข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์
มือใหม่หัดเขียนข่าว
จากข่าวนี้คนเสื้อแดงและคนไทยอีกเป็นจำนวนมากที่ยังรักและชื่นชมในตัวอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คงจะพากันชื่นอกชื่นใจไม่น้อย ที่ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านรักและยังเป็นมิตรแท้ ถึงแม้ขณะนี้ทักษิณ ชินวัตร จะถูกความอยุติธรรมในไทยตัดสินให้อยู่ในสภาพ นช. ไปแล้วก็ตามที
หนำซ้ำยังถูกสื่อสารมวลชนหลายแขนงและนักวิชาการบางท่าน ร่วมด้วยช่วยกันประโคมข่าวซ้ำเติม ชนิดที่เรียกว่า "ไม่ให้ได้ผุดได้เกิดกันเลยทีเดียว"
แต่เพราะสิ่งที่ท่านเคยทำไว้ในอดีต ทำให้ยังเหลือมิตรแท้จากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเล็งเห็นถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและกล้าที่จะแสดงออก แล้วบรรดาญาติมิตรพี่น้องรวมทั้งคนไทยที่ยังรักและศรัทธาในตัว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จะนิ่งดูดายได้ฤา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น