มาร์คขอฮุนเซนคิดให้ดีสัมพันธ์ 2 ชาติสำคัญกว่าช่วยแม้ว แนะอย่าเป็นเบี้ยใคร
อภิสิทธิ์ เตือน"ฮุนเซน คิดให้ดีอุ้ม"แม้ว"อย่าตกเป็นเบี้ยใคร พร้อมปรามอย่าทำให้กระทบความสัมพันธ์และผลประโยชน์ 2 ชาติ ย้ำนายกฯ เขมรเข้าใจผิดอย่างแรง มีกี่คนในโลกที่คิดว่าทักษิณเหมือนอองซานซูจี
ระบุหากคุยทวิภาคี ฝ่ายกัมพูชาต้องชี้แจงว่าจุดยืนเปลี่ยนไปหรือไม่
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. เมื่อเวลา 18.10 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมสุดยอดอาเซียน และทันทีเมื่อนายกฯ เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถาม ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้ถามทันทีถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะตั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ตกจำเลยคดีทุจริตและอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมของทางการไทย ให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ โดยระบุว่า คนไทยเป็นล้านๆ เสื้อแดงก็เป็นผู้ที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วทำไมข้าพเจ้า ซึ่งเป็นเพียงเพื่อน อยู่ห่างไกลจะไม่สามารถสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนกังวลว่า นายกฯ ฮุนเซนอาจได้รับข้อมูลไม่ถูกต้องในการประเมินสถานการณ์ที่เกี่ยวกับอดีต นายกฯ ที่มีความแตกต่างจากกรณีของนางอองซาน ผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า เพราะตนก็ไม่ทราบว่า จะมีกี่คนในโลกที่คิดว่า ทั้ง 2 กรณีเหมือนกัน ซึ่งการที่สมเด็จฮุนเซนเดินทางมาที่นี่ก็เพื่อประชุมในเรื่องสร้างความเป็น ปึกแผ่น และความเป็นเอกภาพของอาเซียน เราจึงไม่มีเวลาที่จะสนใจคนใดคนหนึ่งที่จะมาทำลายความสัมพันธ์อาเซียน ดังนั้นหน้าที่ของเราคือ จะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับสมเด็จฮุนเซนจากนั้นสื่อมวลชนได้ถามว่า โฆษกกระทรวงสารสนเทศของกัมพูชาระบุว่า ไม่สามารถส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณได้ เพราะเป็นคดีการเมือง แล้วรัฐบาลไทยจะทำอย่างไร
นายกฯ กล่าวว่า 1.กระบวนการต้องมีการพิสูจน์กัน โดยปกติแล้วก่อนที่จะมีการใช้ดุลพินิจไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร หรือศาลก็ตาม ก็ต้องรับฟังทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเป็นกระบวนการตามปกติ ฉะนั้นจะต้องมีกระบวนที่เปิดโอกาสให้ 2 ฝ่ายได้เสนอข้อเท็จจริงว่า ตกลงมันเป็นเรื่องการเมืองหรือการคอร์รัปชั่นหรืออะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องว่ากันตามกระบวนการ ตนคิดว่าพูดล่วงหน้าไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายตามกระบวนการที่ควรจะเป็นในการดำเนินการ ในเรื่องนี้ โดยหลักก็มีเท่านั้น
ผมคิดว่า คงมีความเข้าใจที่คาดเคลื่อน อย่างที่ผมเรียนว่า ไม่ทราบว่า มีกี่คนในโลกที่คิดว่า กรณีของอองซาน ซูจี เหมือนกับเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเข้าใจว่า เรื่องที่มีการหยิบยกขึ้นมา เช่นกรณี ของนายสม รังสี หัวหน้าพรรคฟุนซินเปก ก็ไม่ได้เป็นเรื่องของรัฐบาล ที่จะมาเปรียบเทียบต่อกรณีที่รัฐบาลของอีกประเทศหนึ่งจะไปเปิดโอกาสให้มีใคร จะใช้ประเทศเป็นฐานมาทำอะไรที่กระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีและความมั่นคง ประการที่ 1
นายอภิสิทธิ์ กล่าวนายกฯ กล่าวว่า ประการที่ 2 เรื่องที่ได้แสดงจุดยืนไปและเทียบเคียงเป็นเรื่องของมติอาเซียน ซึ่งสืบเนื่องกันมา เพราะฉะนั้นแปรียบเทียบกันไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นไม่ทราบว่าข้อมูลที่คาดเคลื่อนมาจากไหนอย่างไร แต่เราก็มีหน้าที่ที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
และคิดว่านายกฯ ฮุนเซนจะต้องคิดให้ดีว่า จะยืนยันการตัดสินใจที่จะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์และผลประโยชน์ร่วมกันของ คนทั้ง 2 ชาติเพื่ออะไร คือผมก็เห็นว่า ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความอาวุโส อย่าไปเป็นเหยื่อและเป็นเบี้ยให้ใครเลย นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า ในการที่จะพบกันในระดับทวิภาคี จะมีการสอบถามเรื่องนี้ที่นายกฯ ระบุว่ามีความคาดเคลื่อนหรือไม่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ผมคิดว่า ท่านอาจจะต้องชี้แจงผมก่อนมั๊งครับ เมื่อถามต่อว่า หมายความนายกฯ จะไม่เป็นคนเริ่มพูดเรื่องนี้ นายกฯ กล่าวว่า "ผมไม่มีอะไรต้องชี้แจงเท่าไร ผมคิดว่า น่าตั้งคำถามว่า สิ่งที่เคยแสดงจุดยืนโดยตลอดในการพบปะกัน ถ้ามันเปลี่ยนแปลงไปก็คงต้องชี้แจงทางเรา ผมได้แต่พูดสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง เผื่อท่านจะมีความเข้าใจที่ดีขึ้น
"ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คำชี้แจงของฮุนเซนยังจะฟังได้หรือไม่ เพราะคำพูดเปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนเดิมตลอดเวลา นายกฯ กล่าวว่า ความจริงตนไม่แน่ใจว่า จุดยืนนี้จะเปลี่ยนอีกหรือไม่ แต่ตนก็ได้แสดงจุดยืนของตนไปแล้วเมื่อถามว่า แต่การมาพูดเรื่องนี้ในประเทศไทย นายกฯ ได้ตัดบทว่า ตนได้พูดไปแล้วเมื่อกี้นี้ ต้องถามว่า การที่ท่านเดินทางมาประชุมเพื่ออะไร แล้วสิ่งที่พูดและแสดงออกมันสอดคล้องกับวัตถุในการเดินทางมาหรือไม่
เมื่อถามต่อว่า นายกฯ คิดว่าการพูดครั้งนี้จะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ นิ่งก่อนกล่าวว่า วันนี้ก็ต้องกล่าวว่า สิ่งที่สะท้อนออกมา มันคือความเข้าใจคาดเคลื่อนอย่างแรง โดยประเทศไทยก็เพียงแต่บอกว่า ขอให้คิดให้ดี เพราะว่า เรายังยืนยันว่า ความสัมพันธ์และผลประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศน่าจะสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
เมื่อผู้สื่อข่าวต่างชาติถามว่า กังวลแค่ไหนที่ พ.ต.ท.ทักษิณใช้ประเทศเพื่อนบ้านโจมตีประเทศไทย นายกฯ กล่าวว่า เขาพยายามดำเนินการอย่างนี้มานานแล้ว ในประเทศที่ห่างไกล แต่เขาก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเหมือนคนอื่นเขาต้องยอมรับในสิ่งนี้เมื่อถามว่า เหมือนประเทศไทยไม่มีความปรองดองด้านเศรษฐกิจ และการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรามีพัฒนาการทางการเมือง ส่วนเรื่องเศรษฐกิจก็คงต้องใช้เวลา ส่วนการที่จะไม่ยึดกฎหมายก็ไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง
ข่าวจาก Prachatai Webboard
บทวิเคราะห์
จากข่าวคงมีคนสงสัยไม่น้อยว่า ในฐานะเพื่อนที่มีความรักและจริงใจให้เพื่อน "สมเด็จฮุนเซน แห่งกัมพูชา" ทำผิดกระนั้นหรือ
แล้วเพระเหตุใดรัฐบาลถึงพยายามโยงเรื่องอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร และสมเด็จฮุนเซน มาเป็นเรื่องใหญ่จนกลบข่าวการประชุมอาเซียนที่กำลังมีขึ้น
หากจะมองในอีกแง่หนึ่ง คงมีคนคิดไปว่า มาร์คเจตนาใช้เวทีอาเซียน หาทางตัดความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรและสมเด็จฮุนเซนใช่หรือไม่
อภิสิทธิ์ เตือน"ฮุนเซน คิดให้ดีอุ้ม"แม้ว"อย่าตกเป็นเบี้ยใคร พร้อมปรามอย่าทำให้กระทบความสัมพันธ์และผลประโยชน์ 2 ชาติ ย้ำนายกฯ เขมรเข้าใจผิดอย่างแรง มีกี่คนในโลกที่คิดว่าทักษิณเหมือนอองซานซูจี
ระบุหากคุยทวิภาคี ฝ่ายกัมพูชาต้องชี้แจงว่าจุดยืนเปลี่ยนไปหรือไม่
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. เมื่อเวลา 18.10 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมสุดยอดอาเซียน และทันทีเมื่อนายกฯ เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถาม ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้ถามทันทีถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะตั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ตกจำเลยคดีทุจริตและอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมของทางการไทย ให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ โดยระบุว่า คนไทยเป็นล้านๆ เสื้อแดงก็เป็นผู้ที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วทำไมข้าพเจ้า ซึ่งเป็นเพียงเพื่อน อยู่ห่างไกลจะไม่สามารถสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนกังวลว่า นายกฯ ฮุนเซนอาจได้รับข้อมูลไม่ถูกต้องในการประเมินสถานการณ์ที่เกี่ยวกับอดีต นายกฯ ที่มีความแตกต่างจากกรณีของนางอองซาน ผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า เพราะตนก็ไม่ทราบว่า จะมีกี่คนในโลกที่คิดว่า ทั้ง 2 กรณีเหมือนกัน ซึ่งการที่สมเด็จฮุนเซนเดินทางมาที่นี่ก็เพื่อประชุมในเรื่องสร้างความเป็น ปึกแผ่น และความเป็นเอกภาพของอาเซียน เราจึงไม่มีเวลาที่จะสนใจคนใดคนหนึ่งที่จะมาทำลายความสัมพันธ์อาเซียน ดังนั้นหน้าที่ของเราคือ จะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับสมเด็จฮุนเซนจากนั้นสื่อมวลชนได้ถามว่า โฆษกกระทรวงสารสนเทศของกัมพูชาระบุว่า ไม่สามารถส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณได้ เพราะเป็นคดีการเมือง แล้วรัฐบาลไทยจะทำอย่างไร
นายกฯ กล่าวว่า 1.กระบวนการต้องมีการพิสูจน์กัน โดยปกติแล้วก่อนที่จะมีการใช้ดุลพินิจไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร หรือศาลก็ตาม ก็ต้องรับฟังทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเป็นกระบวนการตามปกติ ฉะนั้นจะต้องมีกระบวนที่เปิดโอกาสให้ 2 ฝ่ายได้เสนอข้อเท็จจริงว่า ตกลงมันเป็นเรื่องการเมืองหรือการคอร์รัปชั่นหรืออะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องว่ากันตามกระบวนการ ตนคิดว่าพูดล่วงหน้าไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายตามกระบวนการที่ควรจะเป็นในการดำเนินการ ในเรื่องนี้ โดยหลักก็มีเท่านั้น
ผมคิดว่า คงมีความเข้าใจที่คาดเคลื่อน อย่างที่ผมเรียนว่า ไม่ทราบว่า มีกี่คนในโลกที่คิดว่า กรณีของอองซาน ซูจี เหมือนกับเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเข้าใจว่า เรื่องที่มีการหยิบยกขึ้นมา เช่นกรณี ของนายสม รังสี หัวหน้าพรรคฟุนซินเปก ก็ไม่ได้เป็นเรื่องของรัฐบาล ที่จะมาเปรียบเทียบต่อกรณีที่รัฐบาลของอีกประเทศหนึ่งจะไปเปิดโอกาสให้มีใคร จะใช้ประเทศเป็นฐานมาทำอะไรที่กระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีและความมั่นคง ประการที่ 1
นายอภิสิทธิ์ กล่าวนายกฯ กล่าวว่า ประการที่ 2 เรื่องที่ได้แสดงจุดยืนไปและเทียบเคียงเป็นเรื่องของมติอาเซียน ซึ่งสืบเนื่องกันมา เพราะฉะนั้นแปรียบเทียบกันไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นไม่ทราบว่าข้อมูลที่คาดเคลื่อนมาจากไหนอย่างไร แต่เราก็มีหน้าที่ที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
และคิดว่านายกฯ ฮุนเซนจะต้องคิดให้ดีว่า จะยืนยันการตัดสินใจที่จะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์และผลประโยชน์ร่วมกันของ คนทั้ง 2 ชาติเพื่ออะไร คือผมก็เห็นว่า ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความอาวุโส อย่าไปเป็นเหยื่อและเป็นเบี้ยให้ใครเลย นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า ในการที่จะพบกันในระดับทวิภาคี จะมีการสอบถามเรื่องนี้ที่นายกฯ ระบุว่ามีความคาดเคลื่อนหรือไม่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ผมคิดว่า ท่านอาจจะต้องชี้แจงผมก่อนมั๊งครับ เมื่อถามต่อว่า หมายความนายกฯ จะไม่เป็นคนเริ่มพูดเรื่องนี้ นายกฯ กล่าวว่า "ผมไม่มีอะไรต้องชี้แจงเท่าไร ผมคิดว่า น่าตั้งคำถามว่า สิ่งที่เคยแสดงจุดยืนโดยตลอดในการพบปะกัน ถ้ามันเปลี่ยนแปลงไปก็คงต้องชี้แจงทางเรา ผมได้แต่พูดสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง เผื่อท่านจะมีความเข้าใจที่ดีขึ้น
"ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คำชี้แจงของฮุนเซนยังจะฟังได้หรือไม่ เพราะคำพูดเปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนเดิมตลอดเวลา นายกฯ กล่าวว่า ความจริงตนไม่แน่ใจว่า จุดยืนนี้จะเปลี่ยนอีกหรือไม่ แต่ตนก็ได้แสดงจุดยืนของตนไปแล้วเมื่อถามว่า แต่การมาพูดเรื่องนี้ในประเทศไทย นายกฯ ได้ตัดบทว่า ตนได้พูดไปแล้วเมื่อกี้นี้ ต้องถามว่า การที่ท่านเดินทางมาประชุมเพื่ออะไร แล้วสิ่งที่พูดและแสดงออกมันสอดคล้องกับวัตถุในการเดินทางมาหรือไม่
เมื่อถามต่อว่า นายกฯ คิดว่าการพูดครั้งนี้จะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ นิ่งก่อนกล่าวว่า วันนี้ก็ต้องกล่าวว่า สิ่งที่สะท้อนออกมา มันคือความเข้าใจคาดเคลื่อนอย่างแรง โดยประเทศไทยก็เพียงแต่บอกว่า ขอให้คิดให้ดี เพราะว่า เรายังยืนยันว่า ความสัมพันธ์และผลประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศน่าจะสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
เมื่อผู้สื่อข่าวต่างชาติถามว่า กังวลแค่ไหนที่ พ.ต.ท.ทักษิณใช้ประเทศเพื่อนบ้านโจมตีประเทศไทย นายกฯ กล่าวว่า เขาพยายามดำเนินการอย่างนี้มานานแล้ว ในประเทศที่ห่างไกล แต่เขาก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเหมือนคนอื่นเขาต้องยอมรับในสิ่งนี้เมื่อถามว่า เหมือนประเทศไทยไม่มีความปรองดองด้านเศรษฐกิจ และการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรามีพัฒนาการทางการเมือง ส่วนเรื่องเศรษฐกิจก็คงต้องใช้เวลา ส่วนการที่จะไม่ยึดกฎหมายก็ไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง
ข่าวจาก Prachatai Webboard
บทวิเคราะห์
จากข่าวคงมีคนสงสัยไม่น้อยว่า ในฐานะเพื่อนที่มีความรักและจริงใจให้เพื่อน "สมเด็จฮุนเซน แห่งกัมพูชา" ทำผิดกระนั้นหรือ
แล้วเพระเหตุใดรัฐบาลถึงพยายามโยงเรื่องอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร และสมเด็จฮุนเซน มาเป็นเรื่องใหญ่จนกลบข่าวการประชุมอาเซียนที่กำลังมีขึ้น
หากจะมองในอีกแง่หนึ่ง คงมีคนคิดไปว่า มาร์คเจตนาใช้เวทีอาเซียน หาทางตัดความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรและสมเด็จฮุนเซนใช่หรือไม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น