สัมพันธภาพระหว่างเพื่อนที่มีมาช้านานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และสมเด็จฮุนเซน แห่งกัมพูชา กำลังถูกนำมาขยายให้เป็นประเด็นทางการเมือง โดยสื่อหลายกระแสที่พยายามเชื่อมโยงโดยใช้คำว่า "ชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน" มาเป็นประเด็น
อีกทั้งพยายามเชื่อมโยงว่าทำเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน แต่หากจะวิเคาะห์จากสถานภาพ น.ช. หรือนักโทษชาย ของ พ.ต.ท.ทักษิณในขณะนี้ ไม่มีผลตอบแทนใดเลยที่จะเป็นประโยชน์ต่อกัมพูชา นอกจากคำว่า "มิตรแท้" ที่สมเด็จฮุนเซนมีให้เพื่อนในยามตกที่นั่งลำบาก
ความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่สื่อกระแสหลักบางค่ายพยายามเชื่อมโยง อาจทำไปเพื่อเอาใจคนบางกลุ่ม แต่ผลจากการกระทำนั้น อาจกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไม่มีทางเลี่ยง
และหากจะมองในแง่ลบอาจส่งผลกระทบร้ายแรงถึงขั้นต้องปิดประเทศ ประชาชนที่อยู่แถบชายแดนที่เคยทำมาค้าขายกันอย่างปกติสุขมาก่อนหน้า อาจได้รับผลกระทบกระเทือนจากการประกอบสัมมาอาชีพอย่างไม่ต้องสงสัย
หากสื่อทำข่าวโดยปราศจากความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา และรัฐบาลนิ่งเฉยไม่ยอมออกมาแก้ไขข้อมูลข่าวสาร ประชาชนตาดำๆ จะเป็นเช่นไร?
ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศเป็นไปด้วยดีมาช้านาน คงมีหลายคนอยากวิงวอนรัฐบาลอภิสิทธิ์ว่า โปรดอย่าให้สื่อที่ต้องการเพียงขายข่าวมาทำลายสิ่งดีๆ ที่บรรพบุรุษของเราได้สร้างขึ้นในยุครัฐบาลของท่านเลย ขอจงเร่งสร้างความสัมพันธ์อันดีสืบต่อไปเพื่อลูกหลานของเราในอนาคตเถิด
สื่อสร้าง และสื่อทำร้ายมีให้เห็นบ่อยครั้ง เพราะฉะนั้นผู้ที่ได้รับข้อมูลข่าวสารจึงควรใช้วิจารณญาณ และเลือกบริโภคสื่อที่จรรโลงสังคม อย่าบริโภคสื่อที่ผู้เขียนข่าวเอียงข้างไม่มีความรับผิดชอบ เอาความสะใจเข้าว่า ขอแค่ขายข่าวได้เป็นพอ..
คงมีหลายคนอยากถามสื่อสำนักนั้นว่า ที่ออกมาทำข่าวเช่นนี้ มีหลักฐานแน่ชัดแล้วใช่มั้ย? หรือว่านั่งเทียนเขียนข่าวเพื่อความสะใจ โดยไม่ถึงคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากข่าวที่ท่านหลับตาวาดวิมานในอากาศโดยปราศจากข้อมูลหลักฐานชัดเจน.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น